• หน้าแรก
  • ดิ แอนธีค ราชบุรี พักสไตล์วินเทจ แต่งมอญย้อนเวลา จิบชา ทานโตกลอยน้ำ

ดิ แอนธีค ราชบุรี พักสไตล์วินเทจ แต่งมอญย้อนเวลา จิบชา ทานโตกลอยน้ำ

สัมผัสความพิเศษของการพักผ่อนสุดชิลริมน้ำกลอง สูดอากาศบริสุทธิ์ ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว แถมมีกิจกรรมให้ทำมากมาย มาที่เดียวได้ครบ ทั้งที่พักแสนสบาย  มีมุมพักผ่อนให้ถ่ายภาพมากมาย แถมยังมีบริการอาหารพื้นถิ่นแบบขันโตกรสชาติดี ที่ ดิ แอนธีค ริเวอร์ไซด์ The Antique Riverside อำเภอบ้านโป่ง จังหวัด ราชบุรี ที่พักในสไตลวินเทจที่จะพาเราย้อนเวลากลับไปหาความทรงจำเก่า ที่ผสมผสานวัฒนธรรมแบบมอญดั้งเดิมได้แบบลงตัว

 

นอกจากเป็นเมืองคนอาร์ตที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว บ้านโป่ง ยังมีอีกมุมในแบบวิถีชีวิตดั้งเดิม ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนมอญเก่าแก่ ทั้งชุมชนนครชุมน์ และชุมชนบ้านม่วง ริมแม่น้ำแม่กลอง ที่อพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนในย่านชุมชนวัดใหญ่นครชุมน์ราวรัชสมัยรัชกาลที่ 2 คนมอญเหล่านี้ได้อพยพเข้ามาสมทบกับชุมชนมอญชุดเก่า เกิดเป็นชุมชนมอญขนาดใหญ่ริมน้ำแม่กลองทั้งสองฝั่ง ยังคงไว้ซึ่งความเป็นวิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรมที่งดงาม ทั้งด้านการแต่งกาย การละเล่น อาหาร หรือแม้กระทั้งเรื่องความเชื่อ ไว้อย่างเหนียวแน่น  ดิเอนทีค ริเวอร์ไซต์ เป็นที่พักที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชนชาวมอญนครชุมน์ นอกจากนำการนำเอาสไตล์วินเทจมาตกแต่งที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตแล้ว ยังมีการนำวัฒนธรรมมอญที่เป็นจุดเด่น ทั้งการแต่งตัวแบบมอญ อาหารแบบมอญที่เสิร์ฟในขันโตก มาให้บริการแขกที่มาพักอีกด้วย

 

 

สำหรับห้องพักของ ดิ แอนธีค  ริเวอร์ไซด์ มีทั้งหมด 12 ห้อง ตกแต่งในธีมไทยจีนมอญ ซึ่งเป็นสามอารยธรรมเก่าของลุ่มแม่น้ำกลอง โดยห้องพักตกแต่งในสไตล์ที่แตกต่างกัน ทั้งแบบไทยโบราณ ไทยร่วมสมัย แบบจีน หรือแบบวินเทจโดยการนำตีมโรงหนังเก่ามาตกแต่ง ให้ลูกค้าได้เลือกตามใจชอบ  ส่วนราคาห้องพักจะแตกต่างกันตามขนาดห้อง เริ่มต้นที่ 1200 -2500 บาท  (รวมอาหารเช้า ราคาแตกต่างกันตามฤดูกาล) ทุกห้องมีชุดมอญประจำบ้านไว้ใส่ถ่ายรูปเล่น หรือหากลูกค้าท่านใดอยากจองเป็นแบบแพคเกจก็ได้ แต่ต้องจองตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ในแพคเกจมาพร้อมกับ ที่พัก 1 คืน Afternoon Tea ชุดชายามบ่าย  ขันโตกดินเนอร์ริมแม่น้ำ โตกอาหารเช้าลอยน้ำ  แต่งมอญย้อนเวลา จองแบบแพคเกจค่อนข้างคุ้ม ราคาเริ่มต้นที่คนละ 1000 บาท (ราคาจะเพิ่มขึ้นตามแบบห้องที่เลือก)

 

 

เราเลือกจองแบบแพคเกจ คือ คนละ 1000 บาท โดยเลือกห้องชานเลชา เป็นห้องพักขนาดกำลังพอดีอยู่ในบ้านเรือนไทยเรือนรัก มีทั้งหมดสองห้อง

 

 

ภายในห้องพักตกแต่งธีมวินเทจแบบร่วมสมัย ได้ฟีลโรแมนติคนิดๆด้วยแสงจากโคมไฟและผ้าสีขาวที่ประดับไว้รอบเตียง ภายในห้องทุกห้องจะมีชุดคลุมลายแบบไทยให้ด้วย กลายเป็นชุดสำหรับถ่ายภาพเก๋ตามมุมต่างๆ ของห้องที่ตกแต่งไว้อย่างเข้ากัน

 

 

ห้องน้ำตกแต่งได้อย่างสวยงามไม่แพ้กัน

 

 

นอกจากมุมถ่ายภาพภายในห้องพัก บริเวณรอบที่พักยังมีมุมถ่ายภาพแบบวินเทจอีกหลายจุด ที่ตกแต่งด้วยของสะสมโบราณ  ทั้งร้านทำผมแบบโบราณ บรรยากาศของโรงรับจำนำ มีตั่งที่นั่งแบบโบราณ พร้อมของสะสมทั้งปืน กล้องถ่ายรูป วิทยุ ลูกคิด เตารีด

 

 

แน่นอนมาถึงถิ่นมอญทั้งที่ต้องแปลงกายเป็นสาวมอญสักหน่อย นั่งทาน Afternoon Tea ยามบ่าย เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ในชุดชา มีทั้ง ชา แตงโมปลาแห้ง ผักทอดกรอบทานน้ำจิ้มเข้ากันดี

 

 

มุมริมน้ำที่ตกแต่งแบบไทยไว้หลายมุม ทั้งที่นั่งแบบหมองอิงแนบพื้น ท่าน้ำชมวิว ชิงช้า และกระโจมผ้าม่านสีขาว ให้นั่งเล่นรับลมเย็นช่วยผ่อนคลายได้มาก

 

 

ช่วงเย็นยามพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า เป็นอีกช่วงเวลาที่น่าจดจำ เดินเล่นชมบรรยากาศ สัมผัสลมเย็นสบาย นั่งฟังเสียงสายน้ำ ตอนแรกคิดไว้ว่าที่นี่อากาศจะร้อน แต่ไม่เป็นอย่างนั้น อากาศเย็นกำลังดี อาจเพราะตั้งอยู่ติดริมน้ำและมีต้นไม้เยอะ จึงทำให้การนั่งริมน้ำพร้อมชมแสงอาทิตย์ยามเย็น กลายเป็นการนั่งทอดอารมณ์ที่ให้ความรู้สึกที่ดีมาก 

 

 

มื้อเย็นของเราอยู่ในแพคเกจ เป็นอาหารที่เสิร์ฟมาในขันโตกมอญนครชมน์ เน้นเป็นอาหารแบบไทย มีเมนู แกงส้มชะอมไข่ไหลบัวกุ้ง  ปูหลน สลัดผลไม้กุ้งทอด เทโพมอญ ถุงทอง ข้าวหอมมะลิ รสชาติอร่อยทุกเมนู

 

 

ส่วนอาหารเช้าเป็นอาหารแบบโตกลอยน้ำ มีอเมริกันเบรคฟาส ข้าวต้ม และผลไม้  ส่วนชุดที่ใส่ลงน้ำนั้น เพื่อให้เข้ากับตีมความเป็นวินเทจ งานผ้าถุงต้องมาซึ่งทางที่พักมีเตรียมไว้ให้ ลากโตกในน้ำไปมาถ่ายภาพพอเป็นพิธี หากใครอยากนั่งริมขอบสระทานในน้ำก็ตามสะดวก แต่ถ้าใครไม่ถนัดก็เปลี่ยนชุด ยกอาหารมานั่งโต๊ะทานข้างบนต่อได้

 

 

ทำกิจกรรมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มานั่งพักผ่อนคลายกันริมน้ำ รับสายลมเย็นที่พัดมาเอื่อยๆ  มีความสุขอิ่มเอมใจ เป็นที่พักที่ตอบโจทย์ของการอยากมาพักผ่อนจริงๆ รู้สึกว่าทุกอย่างเดินช้าลง  ห้องพักดี มุมถ่ายภาพเยอะ อาหารดี พนักงานบริการดี ที่สำคัญใช้เวลาเดินทางเพียงแค่สองชั่วโมงจากกรุงเทพ ทำให้ไม่เหนื่อยกับการต้องขับรถมากนัก ตั้งใจว่าจะต้องกลับมาพักอีกแน่นอน สำหรับใครที่สนใจจองที่พักราคาพิเศษ คลิ๊ก จองที่พักดิเอนทีค

 

 


ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน