หลงเสน่ห์ แม่ลาน้อย แม่ฮ่องสอน

แม่ลาน้อย หลังจากเคยมาเที่ยวที่นี่เมื่อหลายปีก่อน ฉันยังคงมีความประทับใจในความสวยงามของนาข้าวขั้นบันไดและวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและความเป็นมิตรของชาวบ้าน   ที่นี่มีกิจกรรมท่องเที่ยวหลายอย่าง ทั้งเที่ยวโครงการหลวง การท่องเที่ยวเชิงนิเวศบ้านห้วยห้อม ชมวิวสวยๆ ระหว่างทาง แม่ลาน้อยนั้น ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอะไรมากมายให้ชม และแล้วโอกาสของการมาเที่ยวแม่ลาน้อยก็กลับมาอีกครั้งเพื่อทบทวนความทรงจำซักหน่อยว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด

 

1-cover-2

 

สำหรับการเดินทางมาแม่ลาน้อยครั้งนี้ เราเลือกเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ โดยมุ่งหน้าไปยังบ้านห้วยห้อมก่อนอันดับแรก ถึงหมู่บ้านประมาณเที่ยง  หมู่บ้านห้วยห้อม อยู่ห่างจากโครงการหลวงแม่ลาน้อยประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ในหุบเขาของอำเภอแม่ลาน้อย อยู่ในเขตรับผิดชอบของโครงการหลวงแม่ลาน้อย เป็นหมู่บ้านที่อาชีพหลักคือ ปลูกกาแฟ เสาวรส ทำนาข้าว กาแฟพันธุ์อาราบิก้าบ้านห้วยห้อมนั้น ถือว่าเป็นกาแฟที่มีชื่อเสียง มีรสชาติหอมเข้มข้น  นอกจากนี้ในหมู่บ้านยังมีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย 

 

 

 

เมื่อมาถึงบ้านห้วยห้อม  จุดแรกต้องแวะ คือ  บ้านของพี่มะลิวัลย์ ผู้บุกเบิกชุมชนห้วยห้อมให้นักท่องเที่ยวรู้จัก ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวบ้านห้วยห้อม  เป็นบ้านไม้ยกสูง  1 ชั้น บริเวณใต้ถุนบ้านจัดเป็นพื้นที่สำหรับขายเครื่องดื่ม กาแฟ และอาหารตามสั่งต่าง ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของบ้านห้วยห้อม นั่นคือ กาแฟสด

 

 

 

รายการเมนูอาหาร และเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่เป็นอาหารจานเดียวและอาหารพื้นเมืองแบบง่ายๆ เมนูเด็ดสุดแนะนำให้ลองเมื่อมาถึงบ้านห้วยห้อมต้องสั่ง นั่นคือ ไก่สะเบื้อก และ น้ำพริกถั่วเน่า เมนูประจำชนเผ่า

 

 

 

ชั้นบนของบ้าน มีระเบียง โต๊ะเก้าอี้ สำหรับนั่งเล่น อากาศในเวลานี้สดชื่นและเย็นสบาย ถึงแม้จะเป็นเวลาเที่ยงก็ตาม

 

 

 

ภายในบ้าน เป็นแหล่งผลิตและรวบรวมสินค้าจากขนแกะ  เช่น ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าคลุมโต๊ะ ฯลฯผ้าทอขนแกะที่นี่จัดเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ยังคงใช้การทอแบบกี่เอวพื้นบ้าน การผลิตผ้าขนแกะซึ่งเป็นไปตามโครงการพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ที่ต้องการสร้างอาชีพและรายได้ให้ชาวบ้าน ผ้าขนแกะจึงเป็นหัตถกรรมที่สร้างชื่อเสียงแก่บ้านห้วยห้อมมาช้านาน

 

 

 

บ้านห้วยห้อมมีบริการบ้านพักโฮมสเตย์ของชุมชน ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังบ้านพี่มะลิวัลย์ มีทั้งแบบห้องแบบห้องน้ำรวม คิดราคาคนละ 150 บาท

 

 

ด้านหลังบ้านพัก  มีจุดชมวิวนาข้าว และป้ายห้วยห้อมหนาวมาก

 

 

 

บ้านแบบต่อไป เป็นแบบห้องน้ำในตัวมี 1 หลัง 2 ห้อง  พร้อมระเบียงชมวิวและแปลนอนเล่น  หากเหมาทั้งหลังราคา 1500 บาท ถ้าแยกเป็นห้องๆละ 800 บาท

 

 

 

จุดไฮไลท์อีกมุมหนึ่งของบ้านห้วยห้อม เดินลงไปข้างล่างอีกนิดนึง  มุมแปลเก๋ๆ มองเห็นนาข้าว

 

 

 

พักรับประทานอาหารเที่ยง กับข้าวง่ายๆ แต่อร่อยมาก โดยเฉพาะสะเบื้อกไก่ และน้ำพริกถั่วเน่า

 

 

จากบ้านห้วยห้อม เราเดินทางย้อนกลับไปยัง  โครงการหลวงแม่ลาน้อ ภายโครงการหลวงมีบ้านพักรับรองแบบเรียบง่าย มีที่นอนเครื่องนอน เครื่องทำน้ำอุ่นและห้องน้ำในตัว  นาข้าวขั้นบันไดจะเริ่มเขียวสวยและเต็มพื้นที่ในช่วงเดือนกันยายน  แต่ถ้าใครอยากจะมาชมตอนนาข้าวเป็นสีทอง ให้มาในช่วงปลายเดือนตุลาคม

 

 

 

 

 

นาข้าวขั้นบันไดภายในที่ทำการของโครงการฯ แค่ยืนตรงระเบียงก็ได้เห็นภาพนี้แล้ว เขียวขจีไกลสุดตา ชาวบ้านที่แม่ลาน้อย  มีหลายหมู่บ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นชาวเขาเชื้อสายปกาเกอะญอ อาชีพหลัก คือ เกษตรกร  ทำนา ปลูกผัก ซึ่งยึดถือตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9  คือ อยู่อย่างพอเพียง

 

 

 

 

ระหว่างทางกลับแวะชมนาข้าวขั้นบันไดบ้านดง ซึ่งอยู่ระหว่างทางไปโครงการหลวง นาข้าวตรงนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดไฮไลท์ที่ต้องแวะ เพราะเป็นจุดชมวิวนาข้าวที่สวยงามที่สุด  เห็นความสวยงามของนาข้าวขั้นบันได้ ที่ลดหลั่นเป็นขั้นบันได แซมระหว่างแปลงผักของชาวบ้าน  เมื่อก่อนนั้นยังไม่มีรั่วไม้ไผ่กั้น แต่ปัจจุบันมีเรียบร้อยแล้ว อาจเพื่อความปลอดภัย แต่ไม่ไผ่นั้นอาจไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก จับได้แค่เบาๆ  ไม่ควรพิงเพราะอาจตกลงไปได้

 

 

วิวข้างทาง มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนมาแต่ไกล สีเขียวสลับกับสีเหลืองสวยมาก   อดใจไม่ได้ต้องลงมาถ่ายภาพ มีบันไดเล็กๆ ข้ามไป ซึ่งจริงๆแล้ว ระหว่างทางไปยังโครงการหลวงและบ้านห้วยห้อมมีวิวที่สวยงามหลายจุด แล้วแต่ว่าเราจะแวะตรงจุดใด แต่การจอดรถชมวิวต้องหาที่จอดให้ปลอดภัย เพราะเส้นทางส่วนใหญ่ คือ ถนนทางโค้งและมีความชันเล็กน้อย

 

แม่ลาน้อย ในวันนี้จะมีคนรู้จักและมาเที่ยวมากขึ้นกว่าแต่ก่อน   ถนนหนทางเริ่มสะดวกสบายขึ้น  มีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไปบ้าง แต่ก็ยังถือว่าน้อยมาก ฉันยังคงมีความชื่นชอบใรความสวยงามของธรรมชาติ ทิวเขา นาข้าว ที่ยังคงมีเสน่ห์ในความรู้สึกไม่เสื่อมคลาย

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง