มาถึงเชียงใหม่นอกจากเที่ยวธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นเที่ยวภูเขาหรือเที่ยวดอยแล้ว ตัวเมืองเชียงใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักเดินทางอย่างเราไม่ควรพลาด เพราะในตัวเมืองเต็มไปด้วยวัดวาอาราม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รสชาติอร่อย ตกแต่งเก๋ไก๋ มีสไตล์หลากหลายร้าน แม้กระทั่งที่พักในตัวเมืองเองก็มีให้เลือกมากมายตามงบประมาณและสไตล์ที่เราชอบตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงพัน แต่สำหรับใครที่มีงบประมาณไม่มาก อยากได้ที่พักดีๆ เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก ในราคาหลักร้อย บ้านดินกี่ ที่พักอบอุ่น ตกแต่งสไตล์ล้านนามีกลิ่นไอของความเป็นวินเทจนิดๆ คือ อีกหนึ่งที่พักที่ในตัวเมืองเชียงใหม่ก็น่าสนใจไม่น้อย
บ้านดินกี่ ตั้งอยู่ถนนห้วยแก้ว ใจกลางเมืองเชียงใหม่ภายในชั้น 4 ของอุทยานการค้ากาดสวนแก้ว ห้างสรรพสินค้าขึ้นชื่อของเชียงใหม่ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นที่พักในเครือกาดสวนแก้วนั่นเอง ตัวที่พักตั้งอยู่โซนด้านหลังเมื่อมาถึงห้างก็ขับรถหรือเดินเข้ามาตรงลานจอดรถด้านในจะเจอกับลิฟต์ที่เป็นลิฟต์เฉพาะไว้บริการสำหรับแขกที่มาพักเท่านั้น โดยลิฟต์จะพาขึ้นไปยังล๊อบบี้ของบ้านดินกี่ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 4 ซึ่งชั้นนี้เป็นลานกว้างและเป็นส่วนของห้องจัดเลี้ยงของห้างด้วย เพราะฉะนั้นพักที่นี่ก็ค่อนข้างสะดวกในเรื่องของการเดินทางไปยังจุดต่างๆ ในตัวเมือง ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว หากไม่มีรถส่วนตัวก็มีรถสองแถวแดงวิ่งผ่านตลอด มีบริการรถแท็กซี่ และตุ๊ก ตุ๊ก จอดหน้าห้าง และที่สำคัญถ้าไม่อยากไปไหนไกลก็เดินเล่นหาอาหารทานในห้างก็สะดวกมาก
มาถึงโซนล๊อบบี้ตกแต่งด้วยเก้าอี้สีสันน่ารัก หลังจากเช็คอินแล้ว ก็ต่อลิฟต์ไปยังห้องพัก ซึ่งห้องพักจะมีทั้งหมด 3 ชั้น คือ 3 4 5
มาชมห้องพักที่อยู่ชั้น 5 จะเจอกับห้องโถงด้านหน้าลิฟต์กว้างขวางตกแต่งโดยมีกลิ่นไอของความเป็นวินเทจนิด ๆ มีมุมน่ารัก กระจุกกระจิกให้ถ่ายภาพหลายมุม ระหว่างเดินเล่นอยู่ที่ห้องโถงก็มีแขกที่มากพักมานั่งถ่ายภาพเล่นกันหลายคน แขกของที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ
อีกมุมน่ารักที่คอวินเทจต้องชอบ มุมโต๊ะเก้าอี้ไม้เรียบง่ายกับพื้นกระจกสีด้านหลัง มีภาพถ่ายโบราณวัดพระสิงห์ วัดคู่บ้านคู่เมืองของเชียงใหม่ ประดับอยู่ทั้งสองด้าน
มีจุดให้บริการน้ำร้อน สำหรับชงชากาแฟ
มาชมในส่วนของห้องพักบ้าง ห้องพักแบ่งเป็น 2 ฝั่ง บรรยากาศค่อนข้างสงบ ไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าใดนัก
ห้องพักเป็นแบบเดียวกันหมดในราคาเดียว คือ แบบเตียงคู่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทั้ง แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น wifi
ห้องพักจะมีในฝั่งที่สามารถมองเห็นวิวดอยสุเทพ นั่งมองวิวเพลินๆ ได้จากหน้าต่างห้องพัก
มาถึงห้องพักชั้น 4 บ้าง ในส่วนนี้ คือ โถงรับแขก ซึ่งตกแต่งสไตล์ล้านนาขนานแท้
มีเก้าอี้และตั่งเตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง อารมณ์คล้ายกับหลุดออกมาจากหนังเรื่องทวิภพ ตอนแรกมาชั้นนี้ก็แอบวังเวงไปซักหน่อยด้วยการตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ แต่อยู่ไปซักพักก็ชินน่ะค่ะ เพราะมีแม่บ้าน และนักท่องเที่ยว เดินเข้าออกตลอด
ทุกชั้นมีในส่วนของจุดให้บริการน้ำร้อน ชั้น 4 มีขนมกรุบกริบและมาม่า ขายด้วย
ภายในห้องพักทุกอย่างเหมือนชั้น 5 ต่างกันแค่โทนสีซึ่งชั้นนี้เน้นเป็นสีชมพู มีที่พักฝั่งที่เห็นวิวดอยสุเทพได้เช่นกัน
มาถึงชั้น 3 ในส่วนของโถงตกแต่งสไตล์ล้านนาเช่นกัน แต่จะไม่เว่อวังอลังการเหมือนชั้น 4 เฟอร์นิเจอร์เน้นแบบเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความโบราณแบบคลาสสิค
มีกระดานหมากรุกให้เล่น
จุดดื่มให้บริการน้ำดื่มของชั้น ใช้แก้วน้ำตาไก่โบราณ เข้ากันกับบรรยากาศ
บรรยากาศของโซนห้องพัก ในส่วนของเตียงนอนก็เหมือนกับชั้น 4 และ 5
ด้วยโลเคชั่น ซึ่งตั้งอยู่ถนนห้วยแก้ว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากถนนนิมมานเหมินทร์ จะนั่งรถสองแถวแดงจากหน้ากาดสวนแก้วในราคา 20 บาท หรือขับรถไป ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาที ก็สามารถไปเดินเล่น ถ่ายภาพยังถนนฮิปสตรีทยอดฮิตแห่งเชียงใหม่ หาอาหารอร่อยๆ ทาน
เราเริ่มต้นที่ถนนนิมานห์ซอย 13 ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อมาทานอาหารรองท้องกันซักหน่อย ซอยนี้มีร้านอาหารเจ้าประจำที่ทานบ่อยๆ อยู่ 2 ร้าน คือ The salad concept ที่รวมเมนูสลัดแบบต่างๆ ไว้ให้เลือกมากมาย มาครั้งนี้ลองสั่งเมนูใหม่มาทาน จำชื่อเมนูไม่ได้แล้วค่ะ หน้าตาจะคล้ายกับเมี่ยง แต่เป็นลาบหมูห่อด้วยผักปลอดสารพิษสดกรอบ มาพร้อมผักเครื่องเคียงอย่างแตงกวา มะเขือเทศ แครอท สั่งมาทานพร้อมกับซุปเห็ดหอม
อีกหนึ่งร้านโปรดไม่ไกลจากร้าน The salad concept คือ ร้านอาหารเหนือชื่อดัง ต๋อง เต็ม โต๊ะ อยากกินอาหารเหนือราคาไม่แพงและรสชาติเยี่ยม แนะนำร้านนี้เลยค่ะ คนเยอะแค่ไหนก็ยอมรอ เมนูมีให้เลือกมากมาย สั่งมาทานหลายอย่างทั้งออเดิฟเมือง แกงผักหวานไข่มดแดง แกงคั่วเห็ดเผาะ ลาบคั่วหมู คือ อร่อยทุกเมนู ราคาจะอยู่ในราคาหลักสิบปลายๆ ถึงร้อยต้นๆ เท่านั้นค่ะ
อิ่มท้องแล้วต้องมาเดินย่อยของคาวออกไปซักหน่อย คือ ถนนนิมมานมีทั้งหมด 17 ซอย ซึ่งแต่ละซอยก็เต็มไปด้วยร้านค้า เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ ที่พักและร้านอาหาร แนวๆ มากมาย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและไอเดียสร้างสรรค์ คือ เลือกเดินกันได้ตามใจชอบ
เดินย่อนกลับมายังถนนนิมมานซอย 5 ซึ่ง เป็นที่ตั้งของโครงการ De marche มาสะดุดตากับร้านขายน้ำแข็งใส ต้องแวะเข้าไปชิมซักหน่อย
สั่งเซ็ทที่ดูน่าทานที่สุดในร้าน เป็นน้ำแข็งใสที่ท๊อปปิ้งด้วยผลไม้นา นา ชนิด ได้แก่ สตอเบอรี่ แอปเปิ้ล มะม่วง แตงโม โรยหน้าด้วยอัลมอนด์ ชามใหญ่มาก ราคาประมาณ 169 บาท ทานคุ้มสุดไปเลย รสชาติคือ ทานได้เรื่อย ไม่เลี่ยน สรุปอร่อย เครื่องดื่มก็แก้วใหญ่ รสชาติดีงามมากเช่นกัน แนะนำอีก 1 ร้าน
ภายในโครงการ De marche มีร้านค้าอยู่หลายร้าน
มาถึงนิมมานซอย 5 ต้องไม่พลาด เดินตรงเข้าไปประมาณกลางซอยเราจะเจอร้านกาแฟน่ารักร้านนี้ Libralista ร้านกาแฟห้องสมุด เป็นอีกหนึ่งร้านที่ตกแต่งได้น่ารักและป็นเอกลักษณ์มาก ด้านหน้ามีเจ้าแมวเหมียวเต้นบัลเล่ย์กวักเรียกเราอยู่หน้าร้าน มีสระว่ายน้ำขนาดย่อมอยู่ด้านหน้าพร้อมโต๊ะเก้าอี้กินกาแฟที่อยู่ข้างสระน้ำ
เข้ามาข้างในร้านติดแอร์เย็นฉ่ำ มีมุม Nespresso ซึ่งเป็นกาแฟแคปซูล แบบชงเองให้ลูกค้าเลือกได้ว่าจะดื่มกาแฟแบบไหน แบบเข้มมาก เข้มน้อย ซึ่งสามารถชงได้ด้วยตัวเอง
ด้านหลังร้าน เป็นห้องสมุด ซึ่งลูกค้าสามารถมานั่งเล่นจิบกาแฟ ทำงาน และเลือกอ่านหนังสือได้ตามใจชอบ ซึ่งที่ร้านมีหนังสือหลากหลายรูปแบบทั้งภาษไทย อังกฤษ
เดินเล่น ถ่ายภาพที่ถนนนิมมาน จนถึงเวลาบ่ายแก่ ๆ ก็เดินทางกลับไปพักผ่อนที่บ้านดินกี่ นั่งพักผ่อน เตรียมตัวนั่งเครื่องกลับกรุงเทพในเย็นนี้ จากที่พักไปสนามบินก็ใกล้นิดเดียวอีกเช่นเคย ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 15 นาที สำหรับใครที่อยากมาฮิป มาเก๋ หาที่พักในตัวเมืองเชียงใหม่ บ้านดินกี่ คือ อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมากมาย ด้วยความสะดวกในการเดินทาง ราคาและลักษณะของตัวห้อง ราคาของห้องมีราคาเดียวคือ 990 บาท (ไม่มีอาหารเช้า) สำหรับใครที่สนใจจองห้องพักสามารถเข้าไปติดตามได้ที่เพจของ บ้านดินกี่ https://www.facebook.com/baandinkiChiangmai/
Tags : บ้านดินกี่ เชียงใหม่, เชียงใหม่