หากพูดถึงโครงการหลวง เรานึกถึงอะไร เชื่อว่าหลายคงคงนึกถึง “ ผักสด แปลงผัดปลอดสารพิษ และชาวเขา” แต่รู้มั้ยโครงการหลวงไม่ได้มีเพียงแค่นี้ แต่ในปัจจุบันหลายแห่งเริ่มมีการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้น ด้วยวิว ทิวทัศน์ บรรยากาศ และอะไรหลายอย่างสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ไม่ยาก ไปด้วยกันเดินทางท่องเที่ยวโครงการหลวงมาหลายแห่งบอกได้เลยว่าชอบและประทับใจทุกที่ หนึ่งในนั้นคือ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก ซึ่งเดินทางสะดวกอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียงที่สวยงามและน่าสนใจอย่างหมู่บ้านแม่กำปอง น้ำพุร้อนสันกำแพง และถ้ำเมืองออน การเดินทางที่แสนจะมีความหมายจึงได้เริ่มต้นอีกครั้ง มาสูดกลิ่นไอของความเป็นธรรมชาติไปพร้อมกัน
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ในตัวเมืองเชียงใหม่ หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วก็เดินต่อไปยังอำเภอสันกำแพง เพื่อไปยังจุดหมายแรกน้ำพุร้อนสันกำแพง อากาศในเช้าวันนี้ครึ้มเล็กน้อยแต่เย็นสบาย บรรยากาศภายในร่มรื่น สวยงาม ล้อมรอบไปด้วยภูเขาธรรมชาติ ไม้ดอกนานาพรรณ และ ได้ตื่นตาตื่นใจกับความมหัศจรรย์ธรรมชาติที่ มาจากความเปลี่ยนแปลงจากใต้พื้นโลกก่อกำเนิดน้ำร้อนที่มีอุณหภูมิถึง 100 องศาเซลเซียส พุ่งขึ้นจากใต้พื้นดินสู่ท้องฟ้าสูงถึง 15 เมตร เป็นธรรมชาติที่น่าทึ่งเป็นอย่างมาก
ไม่ได้มาที่นี่นานมาก มาอีกครั้งมีการปรับปรุงทัศนียภาพไปเยอะพอสมควร
จากบ่อน้ำพุร้อนสันกำแพง ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 15 นาที ก็มาถึง ถ้ำเมืองออน เสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท จากนั้นต้องเดินขึ้นบันไดจำนวน 187 ขั้น เพื่อไปยังปากทางเข้าถ้ำซึ่งตั้งอยู่บนภูเขา เดินขึ้นไปเรื่อยๆได้เหงื่อมาเล็กน้อย ถือว่ามาออกกำลังกาย
มาถึงปากทางเข้าถ้ำมีเจ้าหน้าที่พาลงไปชม โดยต้องมุดลงบันไดลงไปอีก ได้อารมณ์ผจญภัยเล็กๆ
ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย และปฎิมากรรมหินที่สวยงาม และเมื่อส่องไฟไปที่เพดานและผนังถ้ำจะเห็นหินงอกหินย้อยส่องแสงวิบวับเป็นประกาย รวมถึงจุดไฮไลต์ให้ชมหลายจุด อย่างเช่นจุดนี้หากมองไปที่มุมขวาจะมีช่องกลมๆ สำหรับมองลงไปได้ล่างซึ่งเราจะเห็น ภาพของพระธาตุนมผาอยู่ด้านล่าง
จากนั้นเดินลงบันไดมาเรื่อยๆ ก็จะมาถึงโถงใหญ่กลางถ้ำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระนอน
พระธาตุนมผา ตั้งอยู่กลางลานในถ้ำ มีลักษณะเป็นแท่งหินงอกขึ้นมา ซึ่งเกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ สดใสแวววาวสกาวพร่างยามต้องแสงไฟ พระธาตุนมผา เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำถ้ำ มีผู้คนมากมายเดินทางมากราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล
นอกจากนี้ตรงผนังถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ ภายในถ้ำแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ปฎิบัติธรรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน ของครูบาศรีวิชัย และบริเวณปากถ้ำมีรูปปั้นครูบาศรีวิชัย และสถูปอัฏฐิของท่าน รวมทั้งมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ด้วย
ตรงจุดนี้เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นไกด์คอยอิบายตำนานและความเชื่อต่างๆของถ้ำบอกว่า เป็นน้ำที่ไหลลงมาตามหินงอกหินย้อย ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ นิยมน้ำมาประพรมตามล้างกายเพื่อเป็นศิริมงคล
เดินชมถ้ำไปเรื่อยเราก็จะพบเห็นหินรูปร่างแปลกตามมากมาย เช่น รูปร่างเหมือนไดโนเสาร์ ช้างห้าหัว แมวน้ำ เต่ายักษ์ เป็นต้น
ส่วนจุดนี้เป็นจุดสุดท้ายของถ้ำ เรียกว่า รอยพญานาค ด้านล่างของหินมีลวดลายเหมือนรอยงูเลื้อย จึงมีความเชื่อว่าตรงนี้เป็นที่อยู่ของพญานาคมาก่อน และเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ใครได้มากราบไหว้ก็จะมีแต่ความโชคดี
แอบเหนื่อยเล็กน้อยจากการเดินชมถ้ำเมืองออน ก็ถึงเวลาเช็คอินเพื่อพักผ่อนยังที่หมาย จากถ้ำเมืองออนใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็มาถึง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก ตำบลห้วยแก้ว กิ่งอำเภอแม่ออน เป็นอีกศูนย์ฯ หนึ่งที่เกิดจากน้ำพระทัยและพระวิสัยทัศน์อันกว้าง ไกลขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา พระองค์ได้ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ประมาณ 300,000 บาท สำหรับ ก่อสร้างศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก เพื่อเป็นแหล่งพัฒนา สาธิต และส่งเสริมการเพาะเห็ดหอม และกาแฟให้เป็นอาชีพเสริมให้แก่ ราษฎรนอกเหนือจากการปลูกเมี่ยง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรมีรายได้เสริมนอกจากการปลูกเมี่ยง
โครงการหลวงตีนตกยังเปิดให้บริการในส่วนของที่พักอีกด้วย โดยบ้านพักมี 3 โซนซึ่งแต่ละโซนอยู่ติดลำธารทั้งหมด บ้านพักแต่ละหลังออกแบบด้วยดีไซน์โมเดิรน์แต่กลมกลืนกับธรรมชาติ แต่โซนที่เรียกได้ว่าทำเลดีที่สุด คือ บ้านธาริน ซึ่งมองเห็นธารน้ำตกไหลผ่านด้านหน้าที่พักได้แบบเต็มที่ นอนเล่น ฟังเสียงลำธารได้ทั้งวัน ราคาในช่วงโลว์ซีซัน พฤษภาคม-กันยายน ห้องละ 1500 บาท โดยหลังหนึ่งมี 2 ห้อง แต่ถ้าในช่วงไฮคือเดือน ตุลาคม-เมษายนหลังละ 2500 บาท สำหรับฉันที่นี่เที่ยวได้ทุกฤดูไม่ได้มีช่วงไฮหรือโลว์ โดยเฉพาะในฤดูฝนยังรู้สึกว่าได้บรรยากาศของความเขียวขจีมากกว่าฤดูหนาว ส่วนอากาศไม่ต้องพูดถึงเย็นสบายตลอดทั้งปี
ปัจจุบันบ้านพักของโครงการหลวงตีนตก ไม่ได้เปิดให้บริการเข้าพักแล้ว เปิดให้บริการเฉพาะในส่วนของร้านอาหาร
ภายในห้องพักมีมีเตียง 2 เตียง พร้อมมุมโซฟาพักผ่อนนอนอ่านหนังสือเบาๆ เป็นห้องพัดลมทั้งหมด แต่ไม่ต้องเปิดพัดลมอากาศก็เย็นสุดๆ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องครบครับระดับรีสอร์ทหรู ทั้งทีวี ตู้เย็น
ภายในห้องน้ำจัดเป็นส่วนชัดเจน มีเครื่องทำน้ำอุ่น
มีระเบียงสำหรับชมวิวข้างนอกทุกหลัง มองไปก็จะเห็นวิวลำธารอยู่เบื้องหน้าและเห็นร้านอาหารของโครงการหลวงอยู่ไม่ไกล ให้อยู่ที่นี่มองวิวทั้งวันก็ไม่เบื่อ
ออกจากห้องพักเดินไปสำรวจยังโซนอื่นบ้างข้ามมายังสะพานซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
เห็นครอบครัวนี้กำลังเล่นน้ำพักผ่อน คุณพ่อนั่งชมวิว คุณแม่ก็นั่งป็นเพื่อนเล่นกับคุณลูกไปดูอบอุ่นจัง
บ้านพักอีกโซนซึ่งอยู่ในฝั่งนี้ บ้านริมธาร พักได้ไม่เกิน 3 คน
ส่วนหลังนี้คือ บ้านธารใสพักได้ 4 ท่าน และเสริมพิเศษได้อีก 2 ท่าน ภายในบริเวณบ้านพักตกแต่งสวนสวยและต้นไม้เยอะพอสมควร เห็นแล้วก็สบายตา สบายใจ
เที่ยงแล้วเดินกลับไปยังโซนร้านอาหารของโครงการหลวง เพื่อเตรียมรับประทานอาหารกลางวัน ผ่านมุมน่ารักอีก 1 โซน เป็นโซนสำหรับนั่งเล่นพักผ่อนชมวิวที่เยี่ยมยอดอีกจุดหนึ่ง ต้องยอมรับว่าเค้าออกแบบมุมพักผ่อนได้หลากหลายและตกแต่งได้อย่างสวยงาม ตามที่ได้ไว้ว่าอยู่ได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ
บรรยากาศของร้านอาหารโครงการหลวงตีนตก ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง แอบฟินเช่นกัน
มีที่นั่งให้เลือกนั่งหลายมุม
ถูกใจที่สุดคงเป็นโซนนี้อิงแอบแนวชิดธรรมชาติเห็นวิวลำธารและมองเห็นบ้านพักตั้งเรียงรายด้านหน้า
วินาทีขอให้ทุกคนจงลืมและลบภาพเมนูเดิมๆ ง่ายๆ ที่คิดว่าจะต้องเจอเมื่อมาพักโครงการหลวง เพราะนอกจากที่พักอันแสนสะดวกสบายแล้ว เดี๋ยวนี้โครงการหลวงหลายแห่งเมนูมาแบบสวยงามและน่าทานมาก มาพบกับเมนูอันแสนน่ารับประทานของโครงการหลวงตีนตกได้ตามภาพข้างล่างค่ะ ที่นี่มีเมนูให้เลือกหลากหลายมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเมนูที่ทานควบคู่ไปกับผักสดปลอดสารพิษที่โครงการหลวงปลูกเองเริ่มตั้งแต่ยำใบเมี่ยงใส่หมูสับ
ผัดยอดฝักแม้ว สด
ยำผักกูด
เห็ดหอมทอด
ปลาทับทิบนึ่งมะนาว
ทอดมันปลา
ขาดไม่ได้คงเป็นน้ำพริกหนุ่มพร้อมผักเครื่องเคียง
ส่วนอาหารมื้อเย็นก็น่าทานเช่นกัน เรียกได้ว่าพักสบายในบรรยากาศสวยๆ พร้อมอิ่มท้อง เป็นความสุขในการท่องเที่ยวที่ได้ครบทุกอย่างจริงๆ
อิ่มท้องแล้วก็ต้องไปเดินย่อยชมบรรยากาศฟังเสียงน่ำในยามค่ำ
เช้าวันใหม่หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว ก็เดินทางไปเที่ยวต่อยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอีกหนึ่งแห่งนั้นก็คือ หมู่บ้านแม่กำปอง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโครงการหลวงตีนตกเพียง 7 กิโลเท่านั้น การเดินทางเข้าถึงไม่ยากลำบากเท่าไหร่ ถนนลาดยางและคอนกรีตตลอด แต่ถนนอาจจะแคบสักเล็กน้อย บ้านแม่กำปอง เป็น หมู่บ้านโฮมสเตย์ขึ้นชื่อ มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีลำธารไหลผ่านหมู่บ้าน และป่าไม้ที่สมบูรณ์ สภาพอากาศที่นี่จึงเย็นสบายตลอดปี เป็นหมู่บ้านที่ยังคงรักษาความเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทางธรรมชาติที่สมบูรณ์เป็นอย่างดีจึงทำให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชื่นชมความงดงามอย่างไม่ขาดสาย
เมื่อเราเข้ามาภายในหมู่บ้านจะเห็นบรรยากาศของบ้านไม้เรียงรายท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ บางหลังก็จะมีป้ายชื่อติดไว้หน้าบ้านว่าเปิดให้พักแบบโฮมสเตย์ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกพักที่ใด
บ้านแม่กำปอง มีจุดท่องเที่ยวที่หลายแห่ง คณะเราเริ่มไปเที่ยวจากจุดที่ตั้งอยู่ไกลที่สุดก่อนนั่นคือ น้ำตกแม่กำปอง ซึ่งอยู่ไปทางเส้นที่จะวิ่งไปทางอช.แจ้ซ้อนลำปาง
น้ำตกแม่กำปอง มีความสูง 7 ชั้น น้ำตกใสสะอาด เย็นชื่นใจ มีต้นเฟิร์น และตะไคร่น้ำขึ้นอยู่ทั่วไป ซึ่งมีต้นน้ำเป็นแหล่งกำเนิดของประปาหมู่บ้านแม่กำปองที่ชาวบ้านร่วมกันสร้าง คณะเราไม่ได้ขึ้นไปถึงชั้นบน อยู่กันแต่เพียงชั้นล่างเท่านั้น ถือว่าเป็นน้ำตกเล็กๆที่ยังไม่ค่อยมีอะไรมากถือว่ามานั่งเล่นมองวิวต้นไม้เขียวที่ปกคลุมให้สบายตา
จากนั้นย้อนกลับไปทางเดิม ไม่ไกลน้ำตกแม่กำปองจะผ่านร้านกาแฟชมนก ชมไม้
ร้านชมนกชมไม้ เป็นร้านขายเครื่องดื่ม ชา กาแฟ เบอเกอรี่ ที่ขึ้นชื่อของบ้านแม่กำปอง มีมุมพักผ่อน ให้นั่งเล่นหลายมุมนอกจากนี้ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้บริการอีกด้วย
สามารถนั่งจิบเครืองดื่ม ชมวิวของหมู่บ้านแม่กำปองได้จากมุมสูง
บ้านแม่กำปอง เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางภูเขาปลกคลุมไปด้วยต้นไม้เห็นภาพแล้วรู้สึกว่าประชากรคงมีสุขภาพที่ดีมากเพราะในแต่วันคงแทบไม่ได้รับมลพิษใดๆ เข้าสู่ร่างกาย
มาถึงวัดกันธาพฤกษา หรือ วัดแม่กำปอง วัดนี้ถือเป็นวัดเดียวในหมู่บ้านแม่กำปอง ที่สร้างมาในยุคเดียวกับการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของชุมชน ลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมของภาคเหนือวิหารหลังเก่าเป็นไม้ทั้งหลัง หน้าจั่วหลังคาวัดแกะสลักจากไม้สักเป็นลวดลายแบบล้านนา
สิ่งที่โดดเด่นของวัดแม่กำปองคือ พระอุโบสถที่ตั้งอยู่กลางน้ำ สวยงามท่ามกลางธรรมชาติ
ข้างวัดแม่กำปองเป็นร้านขายของชุมชน โดยเฉพาะสินค้าขึ้นชื่อของที่นี่ คือ หมอนสมุนไพรใบชา ซึ่งมีสรรพคุณช่วยต่อต้านแบคทีเรีย ปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยดูดกลิ่นอับชื้นกลิ่นบุหรี่ กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ กลิ่นของใบชาช่วยลดความเครียดทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น เมื่อกลิ่นของใบชาจางลงเพียงนำหมดไปผึ่งแดดความสดชื่นก็จะกลับมา สรรพคุณเยี่ยมยอดขนาดนี้แถมราคาก็ไม่แพงต้องซื้อหากลับบ้านซักใบสองใบ
อีกหนึ่งร้านสวยของหมู่บ้านมากำปองที่อยากแนะนำให้แวะมานั้นก็คือ ร้านกาแฟบ้านฮิมห้วย ลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนหลักไปยังหมู่บ้าน เป็นร้านกาแฟที่มีมุมเก๋ๆ และน่ารักให้ถ่ายภาพเล่นเยอะเลยทีเดียว
ร้านนี้เป็นร้านขายเครื่องดื่ม และร้านอาหาร บรรยากาศดี ตั้งอยู่ริมลำธารกลางหมู่บ้าน นอกจากนี้ที่นี้ยังเปิดให้บริการบ้านพักแบบโฮมสเตย์ด้วย สามารถโทรสอบรายละเอียดได้ที่ โทร 082-889-8280
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งได้อย่างสวยงาม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านแห่งความสุข ที่ทำให้เรารู้สึกว่า แม่กำปองมีอะไรให้แวะและเยี่ยมชมเพิ่มขึ้น
ปิดทริปเที่ยวสัมผัสธรรมชาติตามสไตล์ไปด้วยกัน ในระยะแค่ 2 วัน 1 คืน แม้เป็นระยะเวลาสั้นที่ได้ทำความรู้จักกับศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก และหมู่บ้านแม่กำปอง แต่ความสุขที่ได้รับช่างยาวนานในความทรงจำ ถ้ามีโอกาส ก็อยากกลับพัก ไปชาร์ตแบต ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ อีกครั้ง