เที่ยวน้ำตก มุดถ้ำ ผจญภัยสุดมันส์ @ กรุงชิง นครศรีธรรมราช

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รักการผจญภัย หลงใหลในความเงียบสงบและธรรมชาติที่สวยงามของผืนป่า เขียวขจี  กรุงชิง ชุมชนเล็ก ในพื้นที่ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช มีสถานที่ท่องเที่ยวให้คุณได้สนุกและมันส์หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ถ้ำ น้ำตก ล่องแก่ง ภูเขา ทะเลหมอก หากมาเที่ยวนครศรีธรรมราชนอกจากแวะเข้าตัวเมืองกราบไหว้ขอพรองค์พระธาตุศักดิ์สิทธิที่จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในไม่ช้า สถานที่อีกหนึ่งแห่งที่ไม่ควรพลาดมาทำความรู้จักและกล่าวคำทักทายคือ กรุงชิง

 

 

กรุงชิง เป็นชุมชนเล็กๆที่โอบล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อนโดยมีใจกลางเป็นที่ราบแอ่งกระทะและมีสายน้ำคลองกลายไหลผ่านหล่อเลี้ยงชีวิตชาวกรุงชิงมาตั้งแต่สมัยอดีตจนกระทั่งปัจจุบัน หากมาจากกรุงเทพเข้าสู่จังหวัดนครศรีธรรมราชเข้าตัวอำเภอท่าศาลาผ่านสี่แยกหน้าห้างโลตัสก่อนถึงมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จะพบทางแยกขวาไปอ.นบพิตำ มีป้ายบอกชัดเจน ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวและความเขียวขจีของภูเขาตลอดสองข้างทาง บางช่วงก็จะได้เห็นลำธารเล็กๆของสายน้ำคลองกายแทรกตัวไหลผ่านมองแล้วสดชื่นไม่น้อย

 

 

DEW_5780

DEW_5784

 

จากอ. ท่าศาลา ไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็มาถึงที่พัก ฉันเลือกพักที่ หนำไพรวัลย์ เพราะที่นี่เป็นเจ้าแรกๆที่เปิดให้บริการ พูดง่ายๆคือ ฉันรู้จักและคุ้นเคยกับที่นี่เพียงแห่งเดียว  กรุงชิง มีที่พักหลายแห่งให้เลือก ระหว่างที่นั่งรถผ่านเห็นรีสอร์ทเรียงรายตลอดทาง แต่ละที่ค่อนข้างสะดวกสบายพอสมควรเนื่องจากส่วนใหญ่เพิ่งสร้างใหม่ ส่วนหนำไพรวัลย์ สร้างมานานก็อาจจะดูเก่าและโทรมซักหน่อยตามภาพที่ได้เห็น ฉันเลือกพักบ้านระเบียงน้ำ ซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่มีทั้งหมด 3 ชั้น พักได้ 10 – 15 คน หลังนี้ 2500 บาท ราคานี้เฉพาะห้องพักอย่างเดียวไม่รวมอาหาร

 

DEW_6047

 

บ้านหลังนี้เจ้าของบอกว่าวิวสวยที่สุด เพราะมองไปเห็นภูเขาเขียวและลำธารอยู่เบื้องล่าง

 

DEW_5791

 

บรรยากาศภายในห้องพัก เป็นห้องพัดลมแบบเรียบง่าย ที่พักที่นี่ไม่มีแอร์ค่ะ เพราะอากาศเย็นสบายอยู่แล้ว

 

DEW_5790

DEW_5796

 

ลำธารเล็กๆซึ่งอยู่ตรงข้ามที่พัก หากเบื่อการอาบน้ำในห้องน้ำก็เดินมาอาบที่นี่ได้ เป็นลำธารตื้น น้ำใสสะอาด เย็นสบาย

 

DEW_6062

DEW_5817

 

บ่ายโมงกว่าถึงเวลาที่พวกเรารอคอย นั่นก็คือท่องเที่ยวไปยังจุดต่างของ กรุงชิง โปรแกรมครึ่งวันแรก คือ เที่ยวถ้ำหงส์ ล่องแก่งคลองกาย คณะของฉันซื้อเป็นแพคเกจท่องเที่ยวจากรีสอร์ท ในราคาหัวละ 700 บาท (10 คน)ราคานี้รวมอาหาร 3 มื้อ พร้อมบริการนำเที่ยว ถ้ำหงส์ ล่องแก่ง น้ำตกกรุงชิง และชมทะเลหมอก ตอนแรกเข้าใจว่า ราคานี้รวมทุกอย่างหมดแล้วไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเนื่องจากทางรีสอร์ทไม่ได้แจ้งไว้ แต่ปรากฎว่าคำว่าแพคเกจท่องเที่ยว คือ แค่ใช้รถของรีสอร์ทไปส่งตามจุดต่างๆ ที่เหลือไม่ว่าจะเป็นค่าล่องแก่ง ค่าธรรมเนียมต่างๆ จ่ายเพิ่มเอง เกือบ 4 พัน เพราะฉะนั้นแนะนำว่าหากใครมาเที่ยว ใช้รถตัวเองดีกว่าค่ะ เพราะแต่ละจุดถนนหนทางสะดวก รถทุกชนิดเข้าถึง เส้นทางไปง่ายเพราะ มีป้ายอธิบายเกือบทุกจุด จะได้ไม่ต้องมาเสียค่ารถเพียงแค่ไปส่งโดยเปล่าประโยชน์ แต่ถ้าไม่มีรถส่วนตัวหากมากันหลายท่านก็แนะนำซื้อแพคเกจใช้รถของรีสอร์ทก็จะสะดวกกว่า

 

DEW_5846

 

มาถึงถ้ำหงส์ ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขานัน มีหลักกิโลบ้านนบพิตำ  0 อยู่ด้านหน้า ความหมายช่างเหมาะเจาะเพราะที่นี่ คือ สถานที่แรกที่พวกเราจะเริ่มผจญภัยกัน  ก่อนเข้าชมชำระค่าธรรมเนียมอุทยานคนละ 40 บาท

 

DEW_5852

 

ข้อควรรู้เมื่อเที่ยวถ้ำหงส์
– ต้องเตรียมสภาพร่างกายอุปกรณ์มาให้พร้อม เริ่มจากเสื้อผ้า รองเท้า ที่ไม่อมน้ำมากเพราะตลอดเส้นทาง 250 เมตร ไปจนสุดทางถ้ำมีน้ำไหลผ่านตลอดทางเดินรวมถึงมีน้ำตกตกลงมาจากที่สูงด้วย เส้นทางบางช่วงต้องมุดลอด ปีนป่าย ต้องเตรียมไฟฉายส่วนตัวเพราะภายในถ้ำไม่มีไฟ มืดมาก แต่หากไม่ได้เตรียมมาก็มีขายอันละ 100 บาท
– ส่วนกล้องถ่ายภาพและกระเป๋ากล้องใหญ่ๆ ไม่แนะนำให้เอาเข้าไปถึงแม้จะใส่ในถุงกันน้ำก็ตาม เพราะบางช่วงต้องลอยคอ ถุงกันน้ำบางทีไว้ใจไม่ได้ค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่าน้ำเข้ากล้องกล้องเสียมาหลายคนแล้ว อีกอย่างคือ จะเป็นภาระเสียเปล่าเพราะเดินลำบากทางแคบมาก บางช่วงถึงกับต้องนอนคลานผ่านน้ำ แนะนำให้กล้องคอมแพคเล็กๆ ติดตัวใส่ถุงกันน้ำไปจะดีกว่า

 

 

เมื่อทุกอย่างพร้อมก็เริ่มเดินเข้าสู่ตัวถ้ำ แค่ปากทางเข้าก็เริ่มลุ้นระทึกแล้ว เพราะแคบมากต้องค่อยๆเอาตัวมุดเข้าไปทีละคน เห็นแล้วเกือบถอดใจเดินกลับ ตอนนี้เริ่มจะฮัมเพลง “ ฉันมาทำอะไรที่นี่ ลา ลัล ล้า ” 250 เมตร จากนี้ไปจะเจอกับอะไรบ้างนี้

 

 

เมื่อพวกเราทั้ง 10 ชีวิต มุดเข้ามากันจนครบแล้ว ก็จะเข้ามาเจอห้องแรก ซึ่งเป็นห้องหินประกายเพชร มีหินงอก หินย้อย ส่องประกายแวววาว สวยงาม เห็นแล้วค่อยคลายความกังวลได้นิดนึง

 

 

ผ่านความสวยงาม ก็มาถึงเวลาที่ต้องมุดต่อค่ะ ใครตัวเล็กก็ได้เปรียบหน่อย

 

 

ช่องนี้เล็กและแคบมาก ต้องนอนราบและค่อยๆคลานบวกว่ายผ่านช่องแคบที่มีความยาวประมาณ 10 เมตร พื้นด้านล่างเต็มไปด้วยน้ำ

 

 

ตัวเปียกกันไปเต็มๆ

 

 

ผ่านมาได้ก็เดินก้มๆ  เงยๆ ชมก้อนหินมาเรื่อยๆ

 

 

มาถึงน้ำตกจุดแรกซึ่งตั้งอยู่ในถ้ำไหลลงมาแรงใช้ได้เลย

 

 

ชมน้ำตกแล้วไปต่อถึงเวลาที่เราต้องไต่เชือกผ่านเส้นทางนี้ไป โอ้แม่เจ้า ทุกคนร้องอุทานออกมา เป็นการเที่ยวถ้ำในแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน รู้มาล่วงหน้าว่าต้องมุดต้องลอดแต่ไม่คิดว่าจะต้องลุยขนาดนี้ ถึงได้บอกว่าไม่แนะนำให้เอากล้อง Dslr ตัวใหญ่รวมทั้งของมีค่าติดตัวเข้ามาค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นภาระแล้ว กล้องอาจโดนน้ำของอาจพังได้ง่ายๆ คงไม่คุ้มกันแน่ ตอนแรกฉันจะเอากล้องใหญ่ใส่ถุงกันน้ำเข้ามา แต่เจ้าหน้าที่เตือนไว้ก่อน เมื่อเข้ามาแล้วคิดในใจโชคดีจริงๆ ถ้าเอามาด้วยสงสัยคงแย่แน่ พกมาแค่กล้องคอมแพคกันน้ำติดตัวไว้พอได้เก็บภาพกลับมา

 

 

มาถึงหินซึ่งเป็นไฮไลต์ของถ้ำหงส์ เรียกว่า  หินรูปเป็ดย่าง  อวบอั๋นเชียว ยิ่งได้น้ำกระทบลงหินด้วยแล้วทำให้หินมันแวววาว เหมือนเป็ดย่างมากขึ้นไปอีก เห็นแล้วหิวอยากกิน

 

 

อีกหนึ่งห้อง ถ้ำค้างคาว สมชื่อค่ะ เพราะถ้ำนี้มีค้างคาวเยอะมาก และด้วยช่วงที่พวกเราไป เป็นช่วงที่ค้างค้าวออกลูกพอดี เดินผ่านถ้ำนอกจากต้องย่อตัวแพราะผนังเตี้ยมาก ยังต้องเดินฝ่าฝูงค้างคาวนับร้อยตัวที่บินโฉบไปมาผ่านหน้าและลำตัว นึกว่าอยู่ในหนังเรื่องแวมไพร์ แอบน่ากลัวหน่อยๆ

 

 

หินงอก หินย้อย รูปร่างแปลกตามีให้ชมตลอดทาง

 

 

มาถึงสุดปลายถ้ำจะเจอน้ำตกจุดที่ 2 ต้องปีนไต่เชือกกันอีกแล้ว

 

 

จุดสุดท้ายเล่นน้ำให้ฉ่ำไปเลย

 

 

หลังจากนั้นเราก็เดินกลับไปยังเส้นทางทางเดิม ถือเป็นการเที่ยวถ้ำที่จะเรียกว่าสมบุกสมบันพอสมควร ตอนแรกรู้สึกว่าทำไมเราต้องมาเที่ยวลำบากขนาดนี้ แต่สุดท้ายฉันรู้สึกว่าก็สนุกดี มันส์ไปอีกแบบ และก็ไม่ได้เหนื่อยมากมายอะไร เพระอากาศภายในถ้ำค่อนข้างเย็นสบาย ไปได้เรื่อยๆ ได้รับน้ำใจจากเพื่อนร่วมทางที่ช่วยเหลือให้ถึงจุดหมายในแต่ละจุดพร้อมกัน ทำให้ถ้ำมืดๆ แคบๆ ที่ดูเหมือนจะน่ากลัวมีเรื่องราวให้พวกเราได้กลับมาเล่าสู่กันฟังได้ไม่จบเลยทีเดียว

 

 

จากถ้ำหงส์ ความมันส์ของเรายังไม่จบเพียงเท่านี้ บ่ายแก่ๆเดินทางไป ล่องแก่งคลองกาย มาถึงที่ทำการของทัวร์หลังจากนั้นนั่งรถโฟรวิวไปต่อยังจุดเริ่มต้นล่องแก่ง  ค่าบริการล่องแก่งคนละ 250 บาท สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่โทร 084 968 5696

 

 

เรือที่ใช้ในการล่องแก่งเป็นเรือคายัค นั่งได้ 2-3 คน พร้อมคนพายเรือ

 

 

เส้นทาง ล่องแก่งคลองกาย สภาพแก่งและสายน้ำจะมีขนาดที่ไม่ใหญ่และมีความยากของแก่งอยู่ที่ระดับ 1-3 ระยะทาง 2.5 – 3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เหมาะกับการใช้เรือยางขนาดเล็กหรือเรือคายัค ช่วงแรกกระแสน้ำจะยังไม่แรง ปล่อยให้ได้ลัดเลาะไปตามโขดหินและร่องผาเพลิดเพลินไปกับการมองน้ำ มองฟ้า ชมทัศนียภาพสองข้างลำน้ำที่เต็มไปด้วยป่าดงดิบที่เขียวชอุ่มตลอดปี

 

 

หลังจากนั้นก็จะเริ่มสนุกกับกับแก่งมากมาย

 

 

มาถึงแก่งนี้ ตื่นเต้นพอสมควร เรือแทบจมหายไปกับสายน้ำ

 

 

 

ลงแล้วโผล่ขึ้นมาใหม่

 

 

เรือจอดให้พวกเราได้เล่นน้ำตามแก่งเป็นระยะ น้ำไม่ลึกระดับแค่เข่า เล่นได้สบายๆค่ะ

 

 

หลังจากนั้นก็ไปมันส์กันต่อ ทริปนี้เรียกได้ว่าผจญภัยอย่างแท้จริง ครบเกือบทุกรส

 

 

หลังจากล่องแก่งเรียบร้อยแล้ว ก็มาคลายความเมื่อยล้าหลังจากสมบุกสมบันกันมาตลอดทั้งวัน ที่ บ่อน้ำพุร้อนกรุงชิง  เสียค่าบริการคนละ 20 บาท พร้อมน้ำสมุนไพรเย็นๆ เป็นน้ำเตยหอมและน้ำอัญชันคนละ 1 แก้ว บ่อน้ำพุร้อนกรุงชิงเป็นบ่อน้ำพุร้อนเล็กๆที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จัดตั้งขึ้นโดย กลุ่มบ่อน้ำร้อนกรุงชิงเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นชาวบ้านในอ.นบพิตำ

 

 

นอนแช่น้ำอุ่นๆ รู้สึกผ่อนคลายจากอาการเมื่อยล้าที่ได้เจอมาได้ดัในระดับนึงทีเดียว

 

 

มาถึงที่พัก หนำไพรวัลย์ เกือบ 6 โมงเย็น หลังจากรับอาบน้ำแต่งตัวกันเรียบร้อย ก็มาถึงมื้อค่ำอันแสนอร่อย จัดเต็มมากค่ะ เป็นอาหารใต้แบบพื้นบ้านกับข้าวเยอะมาก ทั้งยำมะพร้าวคั่ว ยำผักกูด แกงไตปลา แกงเลียง น้ำพริกพร้อมผักเครื่องเคียง หมูและหยวกกล้วยผัดกะปิ  ปลาทอด  ผัดเปรี้ยวหวาน เรียกได้ว่าตักรับประทานกันจนอิ่ม รสชาติอาหารอร่อยมาก

 

DEW_5970

77

 

ส่วนมื้อเช้าก็จัดเต็มเช่นเดียวกัน ทั้งข้าวต้ม ข้าวยำ และข้าวผัด ประทับใจหนำไพรวัลย์ ก็ตรงเมนูอาหารนี่ละค่ะ เยี่ยมและอร่อยมาก

 

78

 

เช้าวันใหม่พวกเราตื่นมาแต่ตี 5 ครึ่ง เพื่อไปชม ทะเลหมอกกรุงชิง ที่จุดชมวิวเขาเหล็ก แต่น่าเสียดายหมอกไม่มาทักทายซะงั้น เลยได้แต่ยืนมองวิว ทิวเขา อันเขียวขจีแทน ซึ่งก็สบายตาไปอีกแบบ

 

 

ฉันเคยเห็นในภาพถ่าย ในวันที่หมอกและพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ทะเลที่นี่หมอกสวยมาก  บอกกับตัวเองว่าซักวันต้องหาโอกาสมาแก้ตัวให้จงได้ ด้วยวิวและด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง ถ้าได้เห็นคงสวยน่าดู

 

 

บนจุดชมวิวเขาเหล็ก มีกาแฟ โอวัลติน และขนมขาย

 

 

กลับไปถึงที่พักเก็บสัมภาระ เพื่อไปลุยต่องยังสถานที่ไฮไลต์อีกหนึ่งแห่ง มาเที่ยวกรุงชิง แล้วไม่ได้มาที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงกับน้ำตกที่ได้ชื่อว่า สวยงามและอลังการ อีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย น้ำตกกรุงชิง ท่องเที่ยวน้ำตกกรุงชิงต้องเตรียมตัวมาให้พร้อมเช่นกัน ตั้งแต่เรื่องของน้ำ อาหารต้องใส่ห่อเอาไปทานระหว่างทาง สามารถบอกทางรีสอร์ทให้เตรียมให้ได้ ที่สำคัญมาเที่ยวหน้าฝนมีทาก ต้องเตรียม รองเท้า อุปกรณ์ป้องกันทากมาให้พร้อม เพราะต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 3.5 ก.ม. ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง จึงจะถึงตัวน้ำตกชั้นที่ 2 หนานฝนแสนห่า ซึ่งเป็นชั้นที่สวยที่สุด

 

DEW_6078

 

ทางเดินในช่วงแรกเดินง่ายไม่ค่อยชันเท่าไหร่ ชมนก ชมไม้ ถ่ายภาพสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ระหว่างทางไปเรื่อย

 

 

ผีเสื้อที่น้ำตกกรุงชิงก็มีให้ชมเยอะ พันธุ์สวยแปลกตาแบบที่ไม่เคยเห็น แต่ก็ถ่ายภาพมายากเพราะไม่ค่อยอยู่นิ่งกันเท่าไหร่ เก็บภาพตัวนี้มาได้ 1 ตัว ลายสวยแต่ปีกไม่ค่อยสมบูรณ์

 

 

ระหว่างทางอย่าลืมเลี้ยวเข้าไปชม ต้นหลุมพอยักษ์ น่ะค่ะจะมีป้ายบอกไว้ ต้นหลุมพอจะพบเห็นได้สองข้างทางเดินไปสู่น้ำตกกรุงชิง แต่ต้นนี้รู้สึกว่าจะใหญ่และอายุเก่าแก่ที่สุด

 

 

เจ้าต้นนี้น่าจะเป็นต้นเฟรินป่า เห็นมีขึ้นอยู่ระหว่างทางเยอะมาก สีใบมีสีเขียวและมีสีฟ้าแซมด้วย ดูแปลกดี

 

 

ต้นนี้สีแดงส้มแปร๋ดเลย สะดุดตา รูปร่างแปลกๆไม่เคยเห็นอีกตามเคย

 

 

เวลาเดินป่าฉันมักชอบเดินชมนก ชมไม้ ถ่ายภาพต้นไม้ เห็ด พืชแปลกๆ แมลง ระหว่างทาง แต่ละที่เราก็จะพบเห็น ในรูปแบบที่ต่างกันออกไป สิ่งเหล่านี้มันทำให้เราเพลิดเพลินจนลืมเหนื่อยไปได้บ้าง

 

 

เดินในเส้นทางราบเรียบมาได้เกือบสองชั่วโมง เสียงน้ำตกดังชัดขึ้นเรื่อยๆ บ่งบอกว่าเราใกล้ถึงแล้ว แต่เส้นทางสุดท้ายก่อนถึงตัวน้ำตกมันไม่ง่ายเลยค่ะ เพราะเป็นทางบันไดชันมาก ต้องเดินไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง จะเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนทรมาน แอบบ่นในใจเมื่อไหร่จะถึงซักที

 

 

แต่เสียงน้ำตกที่ดังสนั่น ลั่นป่า ท้าทายให้เราพยายามเดินขึ้นไป จนในที่สุดก็มาถึง หนานฝนแสนห่า จนได้

 

DEW_6288

 

หนานฝนแสนห่า เป็นชั้นที่สวยที่สุด ของน้ำตกกรุงชิง ลักษณะเป็นแอ่งน้ำและมีหน้าผาสูงน้ำไหลเป็นสองสายลงมากระทบกับกับก้อนหินเบื้องล่างกระจายออกเป็นละอองเหมือนเม็ดฝนหรือห่าฝนคล้ายฝนตกจึงเรียกว่า ฝนแสนห่า

 

DEW_6238

 

ชื่อเสียงและความสวยงามของน้ำตกชั้นนี้ยังเคยปรากฏอยู่หลังธนบัตรราคา 1000 บาทของไทยรุ่นเก่าบางฉบับอีกด้วย

 

 

ฉันเคยได้ยินชื่อและค่ำร่ำลือของน้ำตกชั้นนี้มานาน เมื่อได้มีโอกาสมาเห็นด้วยตา อลังการและสวยสมชื่อ แต่ความสวยนี้ก็แลกมาด้วยความยากลำบากกว่าจะมาถึงชั้นนี้ได้

 

 

มาถึงแล้วก็เล่นน้ำอยู่กันให้นานให้สมกับกับระยะเวลา 2 ชั่วโมงที่เดินมาซักหน่อย

 

 

จบทริปผจญภัยสุดมันส์แบบ 2 วัน 1 คืน ที่ กรุงชิง นครศรีธรรมราช เป็นทริปที่ฉันของเรียกว่า เที่ยวแบบเหนือความคาดหมายและไม่คิดว่าเราต้องมาเจออะไรสมบุก สมบัน มากขนาดนี้ แต่มันก็ไม่ได้ถึงกับว่ายากจนเราไม่สามารถเที่ยวได้ถ้าใจเราอยากจะไป สิ่งที่ได้รับจากทริปนี้ คือ ความสนุก ความมันส์ ความตื่นเต้น ได้เปิดมุมมองการท่องเที่ยวในแบบที่แตกต่างไปจากเดิม ฉันรู้สึกว่าเมื่อได้เข้ามาอยู่ที่นี่ เหมือนเราได้อยู่อีกโลกหนึ่ง เป็นโลกที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ของธรรมชาติอย่างแท้จริง

 

 

ทริปเดินทางวันที่ 22-23 มิ.ย. 2556

 

ที่พักในกรุงชิง

วังศิลา แค้มป์ปิ้ง กรุงชิง 16/1ม.6 บ้านปากลง ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช  โทร.08-6278-7182 ,08-7903-6210

กรุงชิงซีวิว รีสอร์ท 51/4 ม.6 บ้านปากลง ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช  โทร. 084-7462766,   081-3269463

หนำไพรวัลย์ 90 ม.6 บ้านปากลง ต.กรุงชิงอ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช โทร.081-9686113

คุ้มตาหนุ่ย 40/12 ม.2 บ้านห้วยพาน ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช  โทร.087-2833084

กรุงชิงการ์เด้น 59/2 ม.3 บ้านพิตำ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราชโทร.0812863586 ,086-1605303,089-8252436

กรุงชิง โฮมสเตย์ ม.2 บ้านห้วยพาน ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช

เรือนกรุงชิง รีสอร์ท ม.3 บ้านพิตำ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ที่ขล.4 (น้ำตกกรุงชิง) โทร.075-460463

 

โปรแกรมการเดินทางตามทริป

วันเดินทาง

22.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพ

วันแรก

08.00 น. แวะเข้าตัวเมืองจ. นครศรีธรรมราช แวะรับประทานอาหารเช้า

09.00 น. ไหว้พระบรมธาตุศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองของชาวนคร

12.00 น. ถึงกรุงชิง เข้าสู่ที่พัก

13.00 น. ผจญภัยถ้ำหงส์

14.30 น. ต่อด้วยล่องแก่งคลองกาย

17.00 น. แช่น้ำร้อนให้ผ่อนคลาย

18.00 น. กลับถึงที่พัก

วันที่สอง

05.30 น. ชมทะเลหมอกกรุงชิง

10.00 น. เที่ยวน้ำตกกรุงชิง ใช้เวลาเกือบทั้งวัน รวมเดินเท้าไปกลับ

15.00 น. เดินทางกลับกรุงเทพ

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง