อัศจรรย์แห่งแก่งหินจากสามพันโบกถึงหาดชมดาว

หากพูดถึงสามพันโบก แน่นอนในวินาทีคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ต้องเรียกว่าฮิตติดลมบน ไปเรียบร้อยกับภาพแก่งหินที่ได้รับการขนานนามว่าแกรนด์แคนยอนแห่งแดนสยาม ชวนให้ไปเดินเล่นข้ามหินก้อนหินรูปร่างแปลกตาจากก้อนนั้นไปยังก้อนนี้ และรู้มั้ยว่านอกจากสามพันโบกแล้วไม่ไกลกันอุบลยังมีแก่งหินที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งที่เพิ่งเปิดตัวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ไม่นาน ลักษณะคล้ายกับสามพันโบก นั่นก็คือ หาดชมดาว ว้าวพูดถึงความอัศจรรย์ของทั้งสองที่คร่าวๆแล้ว ต้องไปชมภาพความงามของแก่งหินทั้งสองที่ผ่านเรื่องราวของรีวิวนี้

11 DEW_9300

มาเริ่มต้นกันที่สามพันโบกกันก่อนดีกว่า หลังจากแวะเที่ยวรายทางตามจุดต่างบ่ายแก่าๆก็มาถึง ที่พัก บ้านสวนณัฐชนา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับหาดสลึง เป็นที่พักที่เรารู้สึกว่าสะดวกและสภาพของที่พักก็ถือว่าสะอาดสิ่งอำนวยความความสะดวกครบทั้งแอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น และwifiเราพักแบบบ้านเรือนแถวซึ่งพักได้ ห้องละ 3 คน ราคาแค่ 900 บาทเท่านั้นถือว่าถูกมาก

1 DEW_9635

2 DSC_1178

3 DSC_1179

สำหรับโปรแกรมเที่ยวสามพันโบกของเราจะเริ่มต้นในช่วงประมาณบ่าย 4 โมงเย็น จะเลือกขับรถไปที่สามพันโบกเองหรือจะเลือกแบบล่องเรือเที่ยวโดยเริ่มต้นจากหาดสลึง ชมวิวริมโขง หาดหงส์ และไปจบที่สามพันโบก จากนั้นก็ล่องเรือกลับมาที่หาดสลึง แต่โปรแกรมของเราคือ เลือกขับรถไปที่สามพันโบกเองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักห่างกันประมาณ 7 กม. ส่วนโปรแกรมล่องเรือชมหาดหงส์เก็บไว้ตอนเช้าของอีกวัน 5 โมงกว่า เราก็มาถึงสามพันโบก ซึ่งเดินทางมาในช่วงสิ้นเดือนเม.ย. อากาศต้องเรียกได้ว่าร้อนระอุเลยทีเดียวนี่ขนาดว่ามาในช่วงเย็น มาถึงจุดจอดรถสามพันโบกฝากรถไว้ที่นี่ ที่จุดจอดรถมีร้านอาหารคือ ครัวสามพันโบก ซึ่งพวกเราฝากท้องไว้ที่นี่ทุกมื้อ รสชาติอาหารอร่อยและราคาไม่แพง

4 DEW_9637

จากจุดจอดรถก็เดินลงไปไม่ไกลก็มาถึงพื้นที่ที่เรียกว่า สามพันโบก ช่วงแรกพื้นที่ก็จะเป็นหาดทรายตามที่เห็น เสียดายก่อนหน้านั้นฝนตกทรายเลยตะดูเปียกเล็กน้อยไม่วิ้ง วิ้ง เหมือนตอนที่ยังแห้งสนิท แค่จุดแรกก็เริ่มมีหินรูปร่างแปลกตาให้เราได้เริ่มหามุมสวยๆ เท่ๆ สำหรับถ่ายภาพ

เดินปีนหินขึ้นมาเรื่อยๆก็จะเริ่มเห็นโบก หรือในภาษาไทยเรียกว่า หลุมหรือแอ่ง บางโบกที่มีรูปร่างแปลกที่พอจะให้จินตนาการได้ว่าเหมือนอะไรก็จะมีป้ายชื่อติดไว้ อย่างเช่น โบกรูปหัวใจ และโบกรูปมิกกี้เมาส์ ซึ่งโบกนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมในการถ่ายภาพพอสมควรเพราะมองแล้วดูน่ารักและคล้ายกับหน้ามิกกี้เมาส์เสียจริง

8 DEW_9261

มาจนถึงจุดบนสุดซึ่งจะเห็นวิวความงามได้แบบกว้างไกล เห็นความสวยงามของแก่งหิน และโบกต่างๆ ได้ชัดขึ้น จะเรียกได้ว่าสามพันโบกนี่เป็นสวรรค์ของนักถ่ายภาพเพราะมีหลากหลายมุมทั้งแสง เงา ให้เลือกสร้างสรรค์กันได้อย่างจุอกจุใจ เสียดายแต่ว่าวันที่ไปอากาศไม่ค่อยแจ่มใสเท่าไหร่ไม่งั้นคงถ่ายภาพสนุกกว่านี้มาก มาเที่ยวสามพันโบกจะให้ดี ควรเลือกมาในช่วงบ่ายแก่ๆก่อนพระอาทิตย์ตก หรือไม่ก็ในช่วงเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งจะได้อารมณ์ของความสวยงามของแสง ปกติมาสามพันโบกจะมาแต่ในช่วงเย็น ครั้งหน้าคงต้องลองเปลี่ยนมาเก็บบรรยากาศในช่วงเช้าบ้าง

อีกหนึ่งหินไฮไลต์ที่มาถึงต้องไม่พลาดนั้นก็คือ หินรูปหัวสุนัข

เรือนำเที่ยวซึ่งจะขึ้นจากสามพันโบกและล่องไปยังจุดต่างๆก็ได้ มีเรือจอดไว้ด้านล่างคอยให้บริการตลอด

16 DSC_1203

แสงยามเย็นเห็นวิวของขอบฟ้าและก้อนเมฆกระทบกับแอ่งน้ำ บ่งบอกว่าถึงเวลาที่เราจะต้องโบกมือลาจากสามพันโบกไปยังที่ต่อไปในเช้าวันใหม่ที่หาดชมดาว

17 DEW_9381

เช้าวันใหม่เราออกเดินทางจากที่พักตั้งแต่ตีห้าครึ่ง ต้องบอกว่าพระอาทิตย์ที่อุบลขึ้นเร็วมากอย่าลืมว่าที่นี่เป็นที่ตั้งของผาชนะได ซึ่งพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยาม เพราะฉะนั้นต้องเผื่อเวลาไว้เลยค่ะถ้าอยากเห็นพระอาทิตย์ จากที่พักใช้เวลาประมาณครั้งชั่วโมงก็มาถึงหาดชมดาว หรือแก่งชมดาว กับภาะรกิจตามหาหินก้อนไฮไลต์ในภาพถ่ายที่ได้เคยเห็นซึ่งเป็นเหตุให้เราต้องเดินทางมาที่นี่ เราจอดรถไว้ที่ศาลาจากนั้นก็เดินลงมาเรื่อยๆ เพื่อให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น

20 DEW_9433

19  DEW_9424

หาดชมดาวมีลักษณะคล้ายกับสามพันโบก แต่พื้นที่จะกว้างกว่าและลักษณะพื้นที่จะเป็นทรายที่ราบและริ้วหินและแอ่งน้ำซะเป็นส่วนใหญ่

พื้นที่ตรงนี้ชวนให้ถึงหลุมอุกาบาตบนดวงจันทร์

บางจุดก็เป็นพื้นดินแห้งระแหง แต่เมื่อมากระทบกับแสงยามเช้าก็ดูสวยงามดี

จากจุดจอดรถไปจนถึงหินก้อนไฮไลต์เราทราบมาว่าห่างกันประมาณ 1 กม. ซึ่งไกลกว่าเดินชมสามพันโบกมาก คำแนะนำหากไม่เคยมาหาดชมดาวมาก่อน ไม่ควรมาเองควรมีไกด์นำทางค่ะสามมารถติดต่อจากที่พัดได้เลย เพราะไม่เช่นนั้นจะหาหินก้อนนั้นไม่เจอเพราะพื้นที่มันเหมือนกันหมด หินก้อนนี้จะอยู่ในหลืบมาก เพราะเรามากันเองด้วยความเข้าใจเองว่าหินก้อนนี้จะหาง่ายมีป้ายบอกแต่ไม่เป็นเช่นนั้นค่ะ เดินหลงทางหาไม่เจอยังโชคดีว่าเจอคนเรือมาให้ปลาเลยว่ายวานให้เค้าช่วยเดินนำทางไป ภาพนี้คือเดินหลงมาจนสุดปลายลำน้ำโขงจนต้องเดินย้อนกลับไปใหม่

เดินย้อนกลับไปด้วยการนำทางของชาวบ้านที่มาหาปลาก็มาเจอหินก้อนไฮไลต์แหมนึกว่าจะไม่ได้เจอซะแล้ว หลังจากเดินหาอยู่ประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง

จุดไฮไลต์มีลักษณะเป็นผาหินสูงใหญ่และเว้าแหว่งยาวคล้ายช่องแคบมีสายน้ำไหลผ่าน และมีก้อนหินเล็กกลางน้ำให้ลงไปยืนโพสต์ท่าถ่ายรูป ซึ่งได้มุมสวยเก๋ไม่เหมือนใคร  ช่วงเวลาที่เหมาะสมมี 2 ช่วง คือ เช้าและบ่ายไม่แนะนำให้มาเที่ยงเพราะจะร้อนมากหากอยากชม พระอาทิตย์ขึ้นก็มาในช่วงเช้าก่อน 8 โมง หากยามชมพระอาทิตย์ตกก้มาในช่วง 5 โมงกว่า ทั้งนี้ต้องเผื่อเวลาเดินอีกประมาณครึ่งชั่วโมงด้วยค่ะ  หันไปมองนาฬิกาตอนนี้ 7 โมงครึ่ง แต่บรรยากาศเหมือนกับเก้าโมงเช้า

เดินลงไปถ่ายภาพให้คุ้มกับที่ตามหาซะหน่อย สำหรับมุมนี้ต้องเรียกได้ว่าเป็นมุมมหัศจรรย์สำหรับเราเลยค่ะ มันดูยิ่งใหญ่อลังการ มนุษย์อย่างเราตัวเล็กไปถนัดตาเลย

ขึ้นมาถ่ายในมุมข้างบนกันบ้าง อากาศเหมือนจะร้อนแต่มีลมพัดมาตลอด

หลังจากนั้นก็เดินกลับไปยังเส้นทางเดิมเพื่อไปยังศาลาจอดรถ พูดเลยว่าเหนื่อยมากกับการเที่ยวหาดชมดาวแต่ก็คุ้มค่ากับภาพที่ได้เห็น

เรากลับไปยังที่พักเพื่อรับประทานอาหารเช้า จากนั้นประมาณ​เกือบ 10 โมงเราก็ไปยังหาดสลึงเพื่อล่องเรือไปยังหาดหงส์ อีกหนึ่งจุดที่เราควรแวะเมื่อมาเที่ยวสามพันโบก ติดต่อซื้อตั๋วเรือ 10 คน ลำใหญ่ราคา 1000 บาท โปรแกรมล่องเรือ ตามที่แจ้งไว้คือ ชมวิวริมโขง ปากบ้อง หาดหงส์ หาดหินสี และสามพันโบก โดยเราจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้แล้วแต่เราไม่จำกัดระยะเวลา แต่สำหรับโปรแกรมของเราไปแค่หาดหงส์ทีเดียว เพราะสามพันโบกก็ไปมาแล้วเมื่อวานนี้

นั่งเรือชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่หาปลาริมน้ำโขงไปเรื่อยๆ การหาปลาก็ยังเครื่องมือและวิธีแบบโบราณอยู่

มาถึงหาดหงส์ประมาณ 10 โมงกว่า พูดเลยว่าเสมือนเผาตัวเองกลางทะเลทราย เอาจริงๆแล้วสำหรับเราช่วงที่เหมาะกับการมาเที่ยวหาดหงส์ที่สุด คือ ในช่วงเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น เพราะน่าจะได้บรรยากาศของเสงอ่อนๆยามเช้าเมื่อกระทบยังหาดทราย และฟ้าในฝั่งนี่ก็จะเป็นสีฟ้าใสพอดี เพราะถ้ามาในตอนบ่ายแดดอ่อนจริงแต่จะย้อนแสงเมื่อถ่ายภาพ แต่ด้วยเราเลือกที่จะไปหาดชมดาวในช่วงเช่าหาดหงส์เลยต้องเป็นโปรแกรมที่ไปต่อจากหาดชมดาว

หาดหงส์ เกิดจากการการพัดพาของน้ำและนำตะกอนทรายมาทับถมกันจนลักษณะพื้นที่เป็นพื้นทรายกว้างใหญ่ มีลักษณะคล้ายกับ ทะเลทรายที่กว้างใหญ่ มองดูแล้วก็คล้ายกับมุยเน่ ของเวียดานามเหมือนกันน่ะค่ะ แต่เราไม่ต้องไปไกลมาแค่อุบลก็เจอบรรยากาศเหมือนกันแล้ว นี่ถ้าฝนไม่ตกไปเมื่อวานคงจะเห็นเป็นริ้วทรายสวยกว่านี้มาก

วินาทีต้องเรียกว่ายอมเผาตัวเอง ถึงแม้แดดจะร้อนมากก็คงต้องยอม เพราะหาดทรายสีน้ำตาลเมื่อมาประกอบกันกับท้องฟ้าสีฟ้าใสต้องยอมรับว่าสวยจริง

ได้เวลาล่องเรือกลับไปยังหาดสลึงเหมือนเดิม คุ้มจุใจกับการการได้สัมผัสความอัศจรรย์และแปลกตาของทั้งสองแก่งหินที่ยิ่งใหญ่แห่งเมืออุบล สามพันโบกอาจเคยมากันแล้ว แต่หาดชมดาวเชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยมา งั้นต้องมาซักครั้งค่ะ ความสวยงามแบบนี้ไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศเมืองไทยก็มีให้ชมเหมือนกัน

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง