บ้านแม่แมะ…เมื่อความสุขแห่งสีเขียวโอบล้อม

บ้านแม่แมะ ได้เห็นภาพสถานที่แห่งนี้มาหลายครั้ง เริ่มจากภาพแรก บ้านต้นไม้ โฮมสเตย์ บ้านไม้หลังคามุงจากหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่แนบชิดกับผืนป่า มองเห็นต้นไม้เขียวขจีขึ้นแซมกันหนาแน่น ได้เห็นบรรยากาศแสนสงบของธรรมชาติรอบด้าน  ถือว่าเป็นภาพเปิดประเด็นที่ทำให้อยากเข้ามาทำความรู้จัก  อยากมาพักบ้านหลังนี้ให้ได้ซักครั้ง  หลังจากพยายามจองบ้านพักช่วงวันหยุดในหน้าหนาวมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้จองล่วงหน้านาน ทราบมาว่าบ้านพักเต็มยาวหลายเดือน เลยพลาดโอกาสไป ครั้งนี้มีความตั้งใจเดินทางมาเที่ยวช่วงหน้าฝน เพราะอยากเห็นความเขียวขจีและสายหมอกฝน เย้ สำเร็จซักที ตั้งหน้าตั้งตารอให้วันนั้นมาถึง มาถึงจนได้

 

 1-%e0%b8%9b%e0%b8%812

 

บ้านแม่แมะ ตั้งอยู่ในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนถึงตัวเมืองเชียงดาว  4-5 ก.ม. บนถนนสายหลัก 107 จะมีทางแยกไปบ้านแม่แมะ  จากนั้นเดินทางไปอีกประมาณ  10 กิโลเมตร บนเส้นทางถนนที่ราดยางตลอด แต่บางช่วงแคบและชันเล็กน้อย เส้นทางจะคล้ายกับทางไปบ้านระเบียงดาว รถทุกชนิดสัญจรได้ยกเว้นรถทัวร์บัสใหญ่ ระหว่างทางก็จะมีป้ายบอกตลอด แต่หากกลัวว่าจะมาไม่ถูกก็ตั้งการเดินทางจาก google maps ถึงแน่นอน

 

dew_1074

 

นั่งรถมาไม่นานก็มาถึงปากทางเข้าบ้านแม่แมะ สำหรับใครที่นำรถส่วนตัวมาสามารถจอดขนสัมภาระด้านหน้าได้ จากนั้นให้นำรถไปจอดที่วัดแม่แมะซึ่งอยู่ตรงข้ามปากทางเข้า  บ้านแม่แมะมีโฮมสเตย์ให้บริการประมาณ  4  แห่ง โฮมสเตย์แห่งแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นและทำให้การท่องเที่ยวบ้านแม่แมะให้เป็นที่รู้จัก  คือ บ้านต้นไม้  ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้า จากนั้นถ้าไล่ตามลำดับของที่ตั้งจากบ้านแม่แมะ  คือ  ไอยเรศชมจันทร์  เฌอชีวา บ้านระเบียงน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ติดๆ กันสามารถเดินเที่ยวชมที่พักแต่ละแห่งได้   เรียกว่าเป็นชุมชนโฮมสเตย์ก็ว่าได้  ไฮไลท์ของการมาเที่ยวบ้านแม่แมะ  คือ การได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ นั่งมองป่าเขาเขียวขจี สูดอากาศบริสุทธิ์  เดินเล่นชมลำธารที่ไหลพาดผ่าน  ใช้ชีวิตให้กลมกลืนไปกับพื้นที่และธรรมชาติ  เรียกว่าได้มาพักผ่อนแบบแท้จริง

 

2-dew_1244

3-dsc_2325

 

มาถึงที่พัก  บ้านต้นไม้   มีที่พักหลายหลัง เริ่มจากหลังนี้ ซึ่งเป็นไฮไลท์ บ้านไม้หลังคามุงจากรายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี  ที่มองเห็นได้จากหน้าบ้านพัก  ราคาแพคเกจของบ้านต้นไม้ คนละ 750 บาท รวมที่พักและอาหาร 2 มื้อ  เช้าและเย็น  บ้านหลังนี้มีห้องใหญ่ 1 ห้อง พักได้ 7 คน  ประตูห้องสามารถเลื่อนได้เพื่อชมวิวความเขียวขจีของป่าเขา

 

3-dew_1104

4-dew_1077

5-dew_1132

 

ส่วนห้องเล็กมี  3 ห้อง พักได้ห้องละ 2  คน  มี 1 ห้อง ที่ sea view ประตูบานเลื่อนสามารถเลื่อนเพื่อเปิดชมวิวได้เช่นกัน  อะไรมันจะดีขนาดนั้น

 

6-dew_1129

7-dsc_2380

 

ห้องน้ำเป็นแบบห้องน้ำรวม 3 ห้อง มีเครื่องทำน้ำอุ่นพร้อม

 

7-dew_1109

 

พื้นที่ของโถงส่วนกลางกว้างขวาง เปิดโล่ง  มีมุมนั่งเล่น พักผ่อนหลายมุม ทั้งแบบโต๊ะนั่ง และแปลนอน  นั่งเล่น นอนเล่นฟังเสียงธรรมชาติ มองความเขียวขจี และสายหมอกฝนที่ไหลพาดผ่านมาตลอด  แถมยังได้ยินเสียงลำธารเบื้องล่างดังแว่วๆไม่ไกล นั่งอยู่เฉยๆ ก็มีความสุขได้ กับธรรมชาติที่รายล้อมรอบด้าน

 

8

9-dsc_2246

10-dsc_2308

11-dsc_2299

 

หากใครเมื่อยล้ามีบริการนวดชั่วโมงละ 200 บาท นวดกันให้ผ่อนคลาย

 

12-dsc_2359

 

หรือถ้าใครอยากจิบเครื่องดื่ม มีบริการชา กาแฟ และขนม หรือระหว่างรอมื้อเย็นเกิดอาการหิว ก็สั่งอาหารมาทานได้ค่ะ ที่นี่บริการอาหารตามสั่งด้วย เป็นอาหารจานเดียวแบบง่ายๆ รสชาติอร่อยเลยทีเดียว

 

12-dsc_2292

13-dsc_2316

 

บ้านต้นไม้ มีบ้านพักหลายหลัง นอกจากหลังใหญ่แล้ว ยังมีหลังที่อยู่บนต้นไม้ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ซึ่งช่วงหน้าฝนไม่ได้เปิดให้พักเพราะฝนตกลงมาจะสาดเข้ามาในตัวบ้านและมีน้ำจากต้นไม้ไหลลงมาด้วย  และบ้านพักหลังเล็กอีกโซนตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านหลังแรก  วิวของบ้านจะอยู่แนบชิดกับลำธาร  พื้นที่กว้างขวางมีส่วนของที่นั่งเล่นเช่นกัน

 

16-dew_1120

17-dew_1114

18-dsc_2330

 

ในตอนแรกตั้งใจว่าจะไปเดินชมบ้านพักหลังอื่น แต่ฝนตกลงมาตลอด เลยไม่ได้ไป นั่งพัก นั่งเล่น มองสายหมอกลอยผ่านไปมา แค่เห็นก็สดชื่น  นั่งนิ่งๆ กดโทรศัพท์  มองวิวแบบนี้ได้ทั้งวัน  ไม่มีเสียงอะไรมารบกวน นอกจากเสียงของธรรมชาติ คือ เป็นสถานที่มีความเงียบสงบ รู้สึกผ่อนคลาย  ชอบมากความรู้สึกแบบนี้

 

19-dsc_2371

20dsc_2399

22-dsc_2401

23-dsc_2410 24-dsc_2387

 

อาหารเย็นเริ่มเวลา 18.00 น. ซึ่งเป็นอาหารแบบบุฟเฟ่ มีกับข้าว 3 อย่าง คือ ไข่เจียว น้ำพริกอ่องพร้อมผัก  ต้มยำไก่ ภาพเล็กซ้ายบนสุด ส่วนอาหารแบบใส่มาในโตกพอดีวันเดินทางมีนักท่องเที่ยวมาเยอะ ซึ่งจะมีชาวต่างชาติด้วย ทางที่พักเลยจัดขันโตกซึ่งถ้าใครสนใจทานเพิ่มเงินอีกคนละ 50 บาท มีอาหารเพิ่มมา 2 อย่าง คือ ปีกไก่ทอด กับแกงฮังเล ส่วนภาพอาหารข้างล่าง คือ อาหารเช้า มีข้าวต้ม  ไข่ต้ม ขนมปัง กาแฟ ชา โอวัลติน คอนเฟค+นม  รสชาติอาหารอร่อยทุกมื้อ

 

25

 

ในช่วงเช้าถือว่าเป็นบรรยากาศที่น่าตื่นเช้ากันซักนิด เพราะแสงอาทิตย์ส่องมายังตัวบ้าน เป็นภาพอุ่นๆที่สวยมาก รวมถึงสายหมอกฝนก็ลอยมาเป็นระยะ

 

26-dew_1137

27-dew_1140

28-dew_1139

 

เช้าวันใหม่หลังจากฝนหยุดตก ได้เวลาเดินมารับอากาศบริสุทธิ์และชมบรรยากาศของที่พักบ้านแม่แมะในบริเวณอื่นกันบ้าง  เดินไปตามเส้นทางเล็กๆ

 

29-dew_1232

3-dew_1113

 

จากบ้านแม่แมะเจอ บ้านไอยเรศชมจันทร์ เป็นอันดับแรกอยู่ติดกับบ้านต้นไม้ ทราบมาว่าเป็นพี่น้องกัน บ้านไอยเรศชมจันทร์เป็นบ้านกระท่อมหลังเล็กๆ มีประมาณ 2 หลัง แต่ละหลังก็แบ่งซอยเป็นห้องพัก และมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งชมวิวเช่นกัน  คุณลุงคุณป้า เจ้าของบ้านก็น่ารักมาก ยิ้มแย้มทักทาย และเชื้อเชิญให้เข้ามาชมบ้านพัก คือ ชาวบ้านและเจ้าของที่พัก  คือ คนในพื้นที่ค่อนข้างเป็นมิตรและอัธยาศัยดีมาก

 

30-dsc_2337

31-dsc_2356

32-dew_1233

33-dew_1234

34-dew_1237

 

จากบ้านไอยเรศ เดินมาไม่ไกลจะเจอ เฌอชีวา ที่พักที่กำลังมาแรงอีกแห่งหนึ่งของบ้านแม่แมะ  เป็นบ้านพักติดลำธารหลังใหญ่มีห้องพักแบบเป็นห้องเช่นกัน  เดินลงมาข้างล่างจะเจอกับพื้นที่ส่วนกลาง ทักทายเจ้าของบ้านและขออนุญาติถ่ายภาพ  คือ ใจดีมากค่ะ บอกว่าถ่ายได้ตามสบายแถมมีเชิญให้ทานกาแฟและทานกล้วยอีก  ที่พักจัดตกแต่งได้น่ารักกลมกลืนกับธรรมชาติเช่นกัน

 

35-dew_1123

36-dew_1121

37-dew_1228

 

ข้างล่างมีกระท่อมนั่งเล่นติดลำธาร  มีแปลสำหรับนอนเล่น ปกติภาพที่เราได้เห็นของเฌอชีวาจะมีมุมถ่ายภาพที่ต้องถ่ายภาพลำธารไปยังบ้านพัก แต่มุมนี้ต้องข้ามไปอีกฝั่ง ซึ่งตอนนี้ลำธารกระแสน้ำค่อนไหลแรง เลยไม่ได้ข้ามไปถ่ายในมุมนั้นค่ะ

 

38-dew_1220

39-dew_1214

40-dew_1225

41-dew_1222

42-dew_1217

44-dew_1224

 

มาถึงบ้านพักที่ตั้งอยู่ท้ายสุดของบ้านแม่แมะ  บ้านระเบียงน้ำ เป็นโฮมสเตย์ที่ตั้งอยู่ริมลำธาร พื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีสะพานไม้ไผ่สามารถเดินข้ามไปอีกฝั่งได้ ซึ่งมีทั้งหมด 2 จุด จุดแรกบริเวณทางเข้า  คือ ถ้าใครไม่ได้พักที่นี่ อยากเล่นน้ำ ถ่ายภาพริมธาร ก็ให้มาตรงจุดนี้ เพราะมีลำธารน่าเล่นหลายจุด  น้ำใสไหลเย็น น่านอนแช่มาก แต่ถ้าฝนตกหนักลำธารก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงของดินที่อยู่ด้านล่าง และน้ำค่อนข้างไหลเชี่ยว

 

43-dew_1195

45-dew_1210

47-dew_1196

48-dew_1201

50-dew_1194

 

สะพานไม้ไผ่อีกหนึ่งจุด ตั้งอยู่ด้านใน ถือว่าเป็นมุมถ่ายภาพชั้นดี

 

51-dew_1192

52-dew_1160

53-dew_1171

54-dew_1185

 

อีกหนึ่งความประทับใจ สำหรับคนที่ชื่นชอบท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ  ไม่ได้ติดหรูหรือความสะดวกสบาย  ต้องการหามุมสงบสำหรับพักผ่อน นั่งเล่น นอนเล่น  ได้ตลอดทั้งวัน  ลองมาให้สีเขียวของต้นไม้และความบริสุทธิ์ของธรรมชาติโอบกอดเราไว้ที่  บ้านแม่แมะ

 

54-dew_1151

 

รายละเอียดเพิ่มเติม

โฮมสเตย์บ้านแม่แมะมีประมาณ 4 แห่ง คิดราคาเป็นแพคเกจ ราคาจะอยู่ที่ 650 -750 บาท  รวมที่พัก 1 คืน อาหาร 2 มื้อ เช้า เย็น

บ้านต้นไม้แม่แมะ โทร  081 958 5601

เฟสบุค :   https://www.facebook.com/TreeHouseHideaway

บ้านไอยเรศชมจันทร์  โทร  085 708 2648  084 372 6486

เฌอชีวา โทร 086 568 2908

เฟสบุค :  https://www.facebook.com/FonThatreeMomearth

บ้านระเบียงน้ำ  โทร  064 959 6539

เฟสบุค คลิ๊ก   บ้านระเบียงน้ำ

 

การเดินทางไปบ้านแม่แมะ

1.รถส่วนตัว

จากตัวเมืองเชียงใหม่ราวๆ เกือบชั่วโมง ใช้เส้นทางหลวง 107 เชียงใหม่แม่ริม-เชียงดาว ก่อนเข้าตัว อ.เชียงดาวซัก 4-5 กิโลเมตร จะมีป้ายซ้ายมือ ทางไปบ้านแม่แมะ ขับไปจากปากทางอีกประมาณ 10 กิโล จะถึงบ้านต้นไม้  เส้นทางไปบ้านแม่แมะเป็นถนนราดยางรถทุกชนิดสัญจรได้ ยกเว้นรถบัสใหญ่ เพราะถนนแคบและคดเคี้ยวตลอดเส้นทาง บางช่วงชันเล็กน้อย

2.รถโดยสารสาธารณะ

จากตัวเมืองเชียงใหม่นั่งรถมาลงอำเภอเชียงดาว สายเชียงใหม่ เชียงดาว ฝาง  มีทั้งรถตู้และรถทัวร์ให้บริการ หรือจากกรุงเทพนั่งรถทัวร์กรุงเทพ-ท่าตอน  จะผ่านอำเภอเชียงดาว   บอกคนขับว่าขอลงปากทางบ้านแม่แมะ จากนั้นให้รถของทางโฮมสเตย์มารับ ซึ่งต้องแจ้วงล่วงหน้าก่อนเดินทาง  โดยมีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นราคาเหมา ประมาณ 600 บาท

 

หาที่เที่ยวเชียงใหม่ คลิ๊ก  เที่ยวเชียงใหม่ 

หาที่พักเชียงใหม่ คลิ๊ก ที่พักเชียงใหม่ 

หาคาเฟ่เชียงใหม่ คลิ๊ก  คาเฟ่เชียงใหม่ 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง