รักเลย ดอยค้ำฟ้า เชียงใหม่

ดอยค้ำฟ้า  อีกหนึ่งดอยในเชียงใหม่ ที่ไม่คุ้นชื่อกันมากนัก ในช่วงเดือนมกราคมในขณะที่หลายคนต่างเดินทางมุ่งหน้าสู่ดอยดัง ดอยมีชื่อในเชียงใหม่ แต่เราเลือกมาที่นี่ เพียงเพราะภาพวิวที่ได้เห็นผ่านตาทางอินเตอร์เน็ต คือ ภาพดอยหลวงเชียงดาวที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ตรงข้าม คลอเคล้าบรรยากาศของทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่งดงาม และที่สำคัญ ยังมีจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งด้วย มาเที่ยวดอยเดียวทำไมถึงได้ครบทุกสิ่งแบบนี้ จะช้าอยู่ไยไปเที่ยวดอยค้ำฟ้ากัน

 

ดอยค้ำฟ้า

 

ดอยค้ำฟ้า ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอำเภอเชียงดาว ซึ่งไม่ได้ตั้งอยู่ในตัวอำเภอ แต่จะเยื้องไปทางอำเภอเวียงแหง ไม่ได้ตั้งอยู่บนถนเส้นหลัก เป็นพื้นที่ซึ่งอยู่ในความดูแลของหน่วยจัดการต้นแม่งาย ซึ่งหากพูดถึงหน่วยจัดการต้นน้ำ ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่อนุรักษ์ไม่ได้มีความสะดวกสบายและพัฒนาเป็นที่เที่ยวมากเหมือนกับอุทยานแห่งชาติ การเดินทางไปที่นี่ ใช้เส้นทางหมายเลข 107 เชียงใหม่-ฝาง ผ่านตัวอำเภอเชียงดาว เมื่อถึงแยกอำเภอไปเวียงแหง ให้เลี้ยวซ้ายไปยังอำเภอเวียงแหงจากนั้นขับตรงไปประมาณ 26 กม.  ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงผ่านเส้นทางคดเคี้ยวและชันเล็กน้อย แต่ถนนเป็นถนนราดยางจนถึงปากทางเข้าดอยค้ำฟ้า เส้นทางช่วงนี้รถทุกชนิดไปได้หมด

 

2

 

ขับตรงไปเรื่อยสังเกตหลักกิโลเมตรที่ 26 ก็จะถึงหน่วยจัดการต้นน้ำขุนคอง ขับเลยไปประมาณ 100 เมตรจะเป็นจุดนัดรถขึ้นไปยังดอยค้ำฟ้าเมื่อมาถึงปากทางขึ้นเส้นทางจะเป็นทางออฟโรดดินแดง  แคบและชัน ฝุ่นเยอะ  หากไม่ชำนาญเส้นทางควรใช้บริการรถของเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัย ระยะทางจากปากทางขึ้น ถึงจุดพักแรม(จุดชมวิว) ประมาณ 8 ก.ม.  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที เราจอดรถไว้ข้างล่างและได้ติดต่อให้เราเจ้าหน้าที่มารับ คิดค่าบริการ 2 วัน 1 คืน รวมนำชมพญาเสือโคร่งด้วย คนละ 300 บาท  แต่ถ้าหากไปแบบเที่ยวเดียวไม่ได้ค้างคืน คิดราคา คนละ 150 บาท ราคานี้เราไปกัน 10 คน แต่ถ้ามาน้อยคนอาจจะคิดเป็นราคาเหมา ซึ่งต้องคุยกับทางเจ้าหน้าที่อีกครั้งว่าคิดราคายังไง

ติดต่อ โทร 0818817346 id line. k0818817346k  ราคาการเดินทางสอบถาม ณ จุดเดินทางอีกครั้ง

 

3

 

นั่งรถโยกไปมา ฝุ่นตลบได้ประมาณ 45 นาที มาถึงหน่วยจัดการต้นน้ำแม่งาย ซึ่งเป็นที่พักของเราในคืนนี้ เป็นหน่วยจัดการฯ ที่สร้างแบบเรียบง่าย

ดอยค้ำฟ้า

 

ข้างบนดอย มีที่พักเพียง 1 หลัง ไว้รองรับนักท่องเที่ยว เป็นบ้านหลังใหญ่พักได้ประมาณ 10-15 คน มีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง  ห้องโถงตรงกลาง ห้องครัว และห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องแรกนอนได้ 2 คน อีก 2 ห้อง นอนได้ห้องละ 5 คน  มีเครื่องนอนให้พร้อม ที่นี่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไฟฟ้าใช้ได้ตั้งแต่ 6 โมง ถึง 3 ทุ่ม มีสัญญาณโทรศัพท์ใช้แรงเป็นบางจุดที่แรงสุดคงเป็นค่าย AIS ทรูมูฟมีบ้าง  ข้างบนไม่มีร้านอาหารต้องเตรียมขึ้นมาเองรวมถึงน้ำดื่มด้วย ที่นี่มีให้บริการเต้นท์ โดยคิดราคาคนละ 200  บาท พร้อมเครื่องนอน

 

ดอยค้ำฟ้า

ดอยค้ำฟ้า

ดอยค้ำฟ้า 

 

 

หลังจากเก็บสัมภาระ พักผ่อนจากความเหนื่อยล้า ประมาณ 5 โมงกว่าเราเดินไปยังจุดชมวิวสวนหินซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 400 เมตร เพื่อไปชมพระอาทิตย์ตก ทางเดินอยู่ด้านหลังที่พัก เดินเรียบป่าเป็นทางราบไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาที มาถึงปุ๊บต้องตะลึงกับวิวที่เห็นตรงหน้าภาพทิวเขาสลับซับซ้อน มีนางเอกคือ ดอยหลวงเชียงดาวอันยิ่งใหญ่โดดเด่นอยู่ตรงกลาง วิวคล้ายกับสันป่าเกี๋ยะ ดอยแม่ตะมาน

 

ดอยค้ำฟ้า

ดอยค้ำฟ้า

 

บรรยากาศในเวลานี้ เย็นสบาย มีลมพัดมาประปราย นั่งฟังเสียงลม เสียงต้นไม้ เพื่อรอเวลา สดชื่น สบายตา และที่ชอบที่สุดคือ ไม่มีนักท่องเที่ยววุ่นวาย

 

ดอยค้ำฟ้า

 

เฝ้ารอ รอ และรอ จนประมาณ เกือบ 6 โมงกว่า  พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง บรรยากาศของท้องฟ้าสีฟ้าใส ก็เริ่มมีสีทองของแสงอาทิตย์เข้ามาร่วมแจม

ดอยค้ำฟ้า

 

เมื่อพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า แสงหลากสีหรือที่เรียกว่าแสงทไวไลท์เข้ามาเป็นบรรยากาศที่งดงามและโรแมนติกกับภาพดอยหลวงเชียงดาวที่งดงามตรงหน้า

 

ดอยค้ำฟ้า

ดอยค้ำฟ้า

 

 ตกกลางคืนมาเดินดูดาวที่ลานกางเต้นท์ ดวงดาวเต็มฟ้ารายล้อมตัวเราไว้ สมชื่อ ดอยค้ำฟ้า   ในจุดนี้เราก็สามารถเห็นวิวของดอยหลวงเชียงดาวได้เช่นกันยามเช้าก็เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกด้วย ไม่ต้องเดินไปไหนเดินออกมาจากที่พักหรือเต้นท์ก็จะได้เห็นภาพดอยหลวงเชียงดาว เพียงแต่จะไม่ได้เห็นวิวทิวเขาแบบ 360 องศาเหมือนสวนหิน

 

ดอยค้ำฟ้า

 

เช้าวันใหม่ประมาณ 6 โมงเช้า เราเดินไปยังสวนหินอีกครั้ง เพื่อชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น จริงแล้วชมจากลานกางเต้นท์ก็ได้ค่ะพระอาทิตย์จะขึ้นตรงนั้นพอดี แต่ตรงสวนหินจะไม่ขึ้นพอดีแป๊ะเพียงแต่จะได้แสงรำไรมาบ้างเล็กน้อย แต่เราเลือกมาที่นี่เพราะอยากได้วิวแบบมุมกว้างและอยากเห็นทะเลหมอกด้วย

 

ดอยค้ำฟ้าเช้า

 

เช้านี้สายหมอกมาค่อนข้างน้อย แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ผิดหวังแต่อย่างใดที่ไม่ได้เห็น เพราะความสวยงามของบรรยากาศที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็เกินพอแล้ว เหมือนเป็นอาณาจักรส่วนตัวไม่มีเสียงอะไรมารบกวน  มีแค่ธรรมชาติที่อยู่เป็นเพื่อนเราเท่านั้น

 

ดอยค้ำฟ้าเช้า

ดอยค้ำฟ้าเช้า

ดอยค้ำฟ้า

 

 

9 โมง เช้าเรานัดกับเจ้าหน้าที่เพื่อไปชมอีกหนึ่งไฮไลท์ของดอยค้ำฟ้า นั่นคือ ดอกนางพญาเสือโคร่ง เนื่องจากเราเดินทางมาในช่วงต้นมกราคมซึ่งเป็นช่วงที่บานพอดี โดยสามารถไปชมได้ที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่งายหน่วยเก่าที่อยู่ถัดลงไป ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีจากที่พัก ตอนแรกบอกตามตรงว่าไม่ได้ตั้งใจและคาดหวังว่าการชมดอกนางพญาเสือโคร่งจะเป็นจุดหมายหลัก จุดหมายเพียงเพื่อมาชมวิวทะเลหมอกและดอยหลวงเท่านั้น แต่พอจะทราบว่าที่นี่มีนางพญาเสือโคร่งด้วย  

 

ดอยค้ำฟ้าพญาเสือโคร่ง

ดอยค้ำฟ้าพญาเสือโคร่ง

 

ในความคิดตามที่เคยเห็นภาพผ่านตามาบ้างเพียงเล็กน้อย คิดว่าไม่น่าจะสวยอะไรมากมายเหมือนกับจุดชมพญาเสือโคร่งดังๆ หลายแห่ง แต่ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะพอได้เห็นกับตา คือ สวยมาก โดยเฉพาะจุดชมวิวมุมสูงที่มองเห็นหน่วยจัดการต้นน้ำเก่าที่อยู่เบื้องล่าง  ตะลึงมากเป็นดงเลยทีเดียว มองไปมองมาก็คล้ายกับหน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะมากสตั๊นหยุดอยู่ตรงนี้นานมากเพื่อเก็บภาพกันให้เต็มอิ่ม สมาชิกทุกคนพูดออกมาพร้อมกันว่า คุ้มแล้วทริปนี้ที่ได้มาเห็นภาพนี้

 

ดอยค้ำฟ้าพญาเสือโคร่ง

 

ชมวิวจุดนี้เสร็จ รถพาเราลงไปยังหน่วยจัดการต้นน้ำเก่า ที่เห็นจากมุมสูง ระหว่างทางเข้าไปก็มีต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่ตลอดทางสวยงามมากอีกแล้วนั่งรถผ่านดงสีชมพูไป มาถึงหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำ เจ้าดอกสีชมพูมารอต้อนรับอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา จะลงถ่ายภาพยังจุดไหนก็เดินชมได้ตามใจชอบ สีชมพูหวานแหวว บรรยากาศเหมือนอยู่ต่างประเทศ แต่ที่นี่คือ เมืองไทย

 

ดอยค้ำฟ้า

 ดอยค้ำฟ้า  

 

ต้องบอกว่าดอกนางพญาเสือโคร่งที่ดอยค้ำฟ้า ยังเป็นอะไรที่ธรรมชาติมาก อยู่ท่ามกลางป่าเขา ได้ยินเสียงนก เสียงไม้ ตลอดเวลามีความสุขและสดชื่นมากที่ได้เดินเก็บภาพ

 

ดอยค้ำฟ้า

 

บ้านหลังน้อยที่เรามองเห็นจากจุดชมวิวข้างบนเมื่อกี้เป็นที่ทำการของเจ้าหน้าที่รายล้อมด้วยต้นนางพญาเสือโคร่ง แต่เนื่องจากตอนนี้ย้ายไปยังหน่วยใหม่ที่เราพัก บ้านหลังนี้เลยดูร้างและเงียบเหงาไป

 

ดอยค้ำฟ้า

 

ดอยค้ำฟ้า อีกหนึ่งดอย ที่บรรยากาศงดงามเหนือความคาดหมาย มาแล้วรักเลย สำหรับเราเรียกว่าเป็นเส้นทางสีชมพูที่สวยงามที่สุดแห่งต้นปีนี้ 

 

ดอยค้ำฟ้า

 

หาที่เที่ยวเชียงใหม่ คลิ๊ก  เที่ยวเชียงใหม่ 

หาที่พักเชียงใหม่ คลิ๊ก ที่พักเชียงใหม่ 

หาคาเฟ่เชียงใหม่ คลิ๊ก  คาเฟ่เชียงใหม่ 

 

ผู้เขียน

นักเดินทางที่ชอบถ่ายภาพ อยากส่งต่อเรื่องราวของการท่องเที่ยว จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง